ชี้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่วันนี้น่าตื่นเต้น ทั้งยังพบหายดีกลับบ้านมากกว่าผู้ป่วยใหม่ แต่กระนั้นตัวเลขยังคงแกว่งอยู่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผู้สูงวัยเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 พบผู้ป่วย ในไทย อายุระหว่าง 60-69 ปี 149 ราย เสียชีวิต 1 ราย เท่ากับป่วยตายสะสม 0.7% อายุ 70-79 ปี ตัวเลขป่วยอยู่ที่ 79 ราย เสียชีวิต 6 ราย คิดเป็น 10.5% อายุเกิน 80 ปี มีผู้ป่วย 12 ราย เสียชีวิต 2 ราย คิดเป็น 16.7% ซึ่ง9 รายที่เสียชีวิตเรียกว่าใกล้เกือบครึ่งของผู้เสียชีวิต สำหรับผู้ติดเชื้อทั่วไปจะอายุอยู่ที่ 30-50 ปี คิดเป็น 70% ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหลานมีโอกาสที่มีโอกาสจะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้สูงวัย และเนื่องด้วยเดือนเม.ย.มีเทศกาลของไทย รดน้ำขอพร ไม่แนะนำให้จัดรดน้ำในครอบครัว ให้เว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรกอดหอม คลุกคลีกับผู้สูงวัย ลูกหลานที่ออกนอกบ้านต้องป้องกันตัวเอง กลับถึงบ้านต้องถอดรองเท้า ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนออกมามีปฏิสัมพันธ์กับผู้สูงวัย สำหรับผู้สูงวัยให้งดออกจากบ้าน ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ระวังไม่ให้มือสัมผัสหน้า ตา ปาก จมูก กินร้อนช้อนกลาง แยกสำรับอาหารให้ผู้สูงอายุ และเว้นระยะห่าง ด้านนพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ขณะนี้ไทยแทบจะเป็นต้นแบบการใช้หน้ากากผ้า พบตัวเลขคนสวมหน้ากากทั่วไปอยู่ที่ 94% สำหรับการทำความสะอาดหน้ากากผ้า ใช้สบู่ หรือผงซักฟอก แล้วตากแดดฆ่าเชื้อ ไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ ซึ่งหน้ากากผ้ายังต้องอยู่กับเราไปอีกนาน สำหรับหน้ากากอนามัย เมื่อใช้แล้วให้จับที่สายคล้องหู เพื่อไม่ให้สัมผัสเชื้อโรค ให้พับแล้วทิ้งในถังขยะมีฝาปิด ซึ่งพนักงานเก็บขยะต้องสวมหน้ากาก สวมถุงมือยาง มีที่คีบขยะ ล้างมือให้สะอาด ขณะที่นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า คนไข้ทุกคนไม่จำเป็นต้องได้ยาต้านยาไวรัส 80% จะหายได้เอง มี 15% ที่อาการมาก ต้องได้ยา ซึ่งยาหลักคือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะยังมีปัญหา คนที่ป่วยรักษาหาย แต่ยังไม่ให้กลับไปอยู่ในชุมชน โดยยังกลัว รังเกียจ ตีตรา ซึ่งเป็นผลจากการใช้ยุทธศาสตร์ป้องกันตัวที่ไม่ถูก จึงมีคนไข้ที่ไม่อยากไปพบแพทย์ ทำให้ก่อความเสี่ยงกับคนทั่วไป ทั้งนี้ เมื่อรักษาหายแล้ว สามารถกลับไปอยู่ชุมชนได้หรือไม่ ซึ่งตั้งแต่วันที่เริ่มป่วยถึงไปอยู่ Hospitel 14 วัน เมื่อถึงบ้านต้องเข้มข้นดูแลตัวเองต่อ ซึ่ง 14 วันศึกษาวิจัยแล้วว่าปัจจุบันเพียงพอ สำหรับตัวเลขวันนี้ ถือว่าน่าตื่นเต้นขึ้นมาแค่ 51 คน หากจำไม่ผิดวันนี้มีคนกลับบ้านมากกว่าผู้ป่วยใหม่เป็นวันแรกๆ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างลดลงแต่ไม่ต่อเนื่อง ยังคงแกว่งอยู่