นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เผยว่า ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้ออกมาตรการยกระดับความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและยับยั้งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โดยได้ปิดช่องทางเข้า – ออกในช่องทางบกและช่องทางน้ำ ตามประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับที่ 11/2563 ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้ประสานการปฏิบัติในการใช้มาตรการเพิ่มเติมในการปิดช่องทางเดินอากาศยานด้วย ทั้งนี้ ตามหนังสือจังหวัดภูเก็ต ด่วนที่สุด ที่ ภก 0018.1/5282 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเพื่อประโยชน์ในการป้องกันหรือรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และเพื่อมิให้สถานการณ์การระบาดของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 60/22 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้ 1. ให้ระงับการดำเนินงานของสนามบินภูเก็ต เว้นแต่เป็นการให้บริการแก่อากาศยานดังต่อไปนี้ (1) อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military Aircraft) (2) อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency Landing) (3) อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง (4) อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) (Humanitarian Aid, Medical and Relief Flights) (5) อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา (Repatriation) (6) อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo Aircraft) 2. ให้ผู้ควบคุมอากาศยาน เจ้าหน้าที่ประจําอากาศยาน และบุคคลผู้เดินทางโดยอากาศยานตาม 1. ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งของจังหวัดภูเก็ตโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 23.59 น. หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง