วันนี้ ( 3 เม.ย.63) นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 จังหวัดยะลา ที่ 16/2563 เรื่อง มาตรการลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีข้อความว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา จึงมีคำสั่งที่ 1750/2563 ลง วันที่ 26 มีนาคม 2563 กำหนดให้ผู้ที่พักอยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา หรือประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 นั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ยังขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ และมีจำนวนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับยังคงมีประชาชนในหลายพื้นที่ขาดความตระหนัก ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เพื่อลดการแพร่ระบาดและให้เป็นไปตามข้อ 11 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 จังหวัดยะลา อาศัยอำนาจตามมาตรา 34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พศ.2558 จึงให้ปฏิบัติดังนี้ 1.ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกนอกเคหะสถานโดยเคร่งครัด 2.ให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการหรือทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เคร่งครัดต่อการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Social Distancing) 3.ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น สถานที่สาธารณะหรือสถานที่อื่นใดที่มีคนใช้บริการจำนวนมากในลักษณะแออัดเบียดเสียด หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สั่ง ณ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ 2563 มีรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดยะลา วันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 11.00 น. มีผู้ติดเชื้อรักษาหายแล้ว 18 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย เสียชีวิต 2 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 49 ราย คงเหลือรักษาตัวที่โรงพยาบาล 29 ราย