3 เมษายน 2563 11:48 น. สยามรัฐออนไลน์ คุณภาพชีวิต
ดับอีก 4 อายุ 59 พนักงานรถไฟ และอีก 3 ราย เป็นชายติดจากสนามมวย ขณะหายป่วยเพิ่มอีก 76ด้านผู้ป่วยใหม่ 103 ราย พบกลุ่มใหญ่ 39 รายติดจากผู้ป่วยก่อนหน้า สนามมวยยังมี 1 สถานบันเทิง 2 ไปงานบุญที่อินโดฯ 6 คนไทยกลับจากต่างประเทศ 7 ต่างชาติเข้าไทย 8 อาชีพเสี่ยงติดจากต่างชาติ 13 บุคลากรการแพทย์ติดเพิ่มอีก 5 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.63 เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า ล่าสุด ข้อมูลในวันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 19 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 76 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 581 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 4 ราย รายที่ 1 เป็นชายอายุ 59 ปี เป็นพนักงานการรถไฟฯ ป่วยวันแรก 16 มี.ค. รับการรักษา 20 มี.ค. กลับไปทำงานต่อ แต่วันที่ 31 มี.ค. อาการหนักขึ้นเหนื่อยหอบ เข้ารับการรักษาใน รพ.โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง พบผลแล็บยืนยัน และเสียชีวิต วันทื่ 2 มี.ค. รายที่ 2 ชายไทยอายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสลูกชายซึ่งป่วยก่อนหน้าจากการไปสนามมวย มีโรคประจำตัวคือ โรคไต เริ่มป่วย 16 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 1 เม.ย. รายที่ 3 ชายไทย อายุ 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัว ไต ความดันโลหิตสูง เก๊าท์ เข้ารับการรักษา 26 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 2 เม.ย. รายที่ 4 ชายไทย อายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มรักษาตัว วันที่ 14 มี.ค. เสียชีวิต วันที่ 2 เม.ย. รวมเสียชีวิตสะสม 19 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย  โดยมีสัญชาติไทย 1,684 ราย สัญชาติอื่น 294 ราย หายกลับบ้านสะสม 581 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 103 ราย จำแนกได้ดังนี้ 1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 48 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 1 ราย / สถานบันเทิง 2 ราย / สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 39 ราย / ร่วมงานบุญที่ประเทศอินโดนีเซีย 6 ราย 2.ผู้ป่วยอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้า 44 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 7 ราย / คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย /สัมผัสจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย /ไปสถานที่ชุมนุมชน 4 ราย/อาชีพเสี่ยง หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ  13 ราย / บุคลากรทางการแพทย์ 5 ราย / และอื่นๆ 5 ราย 3.รอรายละเอียดจากการสอบสวนโรค 11 ราย