วันนี้ (1 พ.ค.60) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติการฝนหลวงลงพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบกับเป็นบริเวณพื้นที่ที่มีเกษตรกรขอรับบริการฝนหลวงเข้ามา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรเพื่อช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยจากที่ได้มีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกร พบว่า พื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ยังคงมีความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่การปลูกมันสําปะหลังและนาข้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี จึงได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปฏิบัติการทำฝนช่วยเหลือพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 9 เที่ยวบิน 9.30 ชั่วโมงบิน ปริมาณใช้สารฝนหลวง 6.40 ตัน
อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ทั้งนี้ ผลปรากฏว่า พื้นที่เกษตรแปลงใหญ่อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา มีปริมาณฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณอำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ตลอดจนพื้นที่ลุ่มรับน้ำคลองสียัด และให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนช่วยเหลือพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 5 เที่ยวบิน 6.20 ชั่วโมงบิน ปริมาณใช้สารฝนหลวง 6.8 ตัน ทำให้มีปริมาณฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณ อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ตลอดจนพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนลำมูลบน ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะดำเนินการสนับสนุนทำฝนช่วยเหลือเกษตรกรและปฏิบัติภารกิจทุกวันต่อเนื่อง
นายสุรสีห์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ ผลการปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม – 30 เมษายน 2560 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 56 วัน 968 เที่ยวบิน (1403:10 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 828 ตัน พลุซิลเวอร์ ไอโอไดด์สำหรับภารกิจปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 286 นัด มีจังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 55 จังหวัด มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 160.50 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม ประชาชนและเกษตรกรสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารฝนหลวงได้ทุกวันที่เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร