พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยราช พร้อมตำรวจชุดสืบ ได้คุมตัวหนุ่มวัย 40 ที่ก่อเหตุจับหักคอ กระทืบซ้ำ และเปิดน้ำกรอกปากเพื่อนซี้ตายคาวงเหล้า ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างฉุนถูกผู้ตายกล่าวหาค้ายาจนมีเงินซื้อเหล้า ขณะญาติผู้ต้องหาเผยเวลาไม่ดื่มเหล้าก็นิสัยดีแต่ถ้าเมาจะกลายเป็นคนโมโหร้าย เชื่อที่ก่อเหตุเพราะฤทธิ์เหล้า
วันที่ 2 เม.ย.63 พ.ต.ท.ชาญชัย ลีประโคน สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ห้วยราช ได้ควบคุมตัว นายอุเทน กุมรัมย์ หรือแม็ค อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายชาลี สายชุมดี หรือลี อายุ 40 ปี เพื่อนสนิท ด้วยการใช้มือจับหักคอ เท้ากระทืบซ้ำ และใช้สายยางยัดปากก่อนเปิดน้ำกรอกปาก จนทำให้นายชาลี เสียชีวิตคาวงเหล้า ที่บริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 146 ม. 3 ต.สนวน อ.ห้วยราช เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าโมโหที่ถูกผู้ตายกล่าวหาว่าค้ายาเสพติด ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี
โดยวันนี้นายอุเทน ผู้ต้องหาก็มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวถามก็ไม่ยอมตอบอะไร แต่ก็ให้ความร่วมมือในการทำแผนชี้จุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จึงใช้เวลาในการทำแผนเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้น และไม่มีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายแต่อย่างใด เพราะมีเพียงแม่ ภรรยา และญาติของผู้ต้องหา ที่มารอดูการทำแผนไม่กี่คนเท่านั้น แต่ไม่มีญาติผู้ตาย และชาวบ้านมารอดูการทำแผนเลย ซึ่งอาจเพราะเนื่องจากช่วงนี้ทางภาครัฐ ได้มีมาตรการคุมเข้มให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดด้วย
จากการสอบถาม นางเอ (นามสมมติ) น้าของผู้ต้องหา ซึ่งอยู่บ้านติดกัน บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นนายชาลี มาดื่มเหล้ากับนายอุเทน ที่บ้านบ่อยครั้ง เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน วันเกิดเหตุตนไม่ได้ยินว่าทั้งสองทะเลาะกัน และไม่ได้ยินนายชาลี พูดว่านายอุเทน ขายยาบ้าเลย ได้ยินแต่นายอุเทน ที่เป็นคนพูดกับพ่อตา ที่มานั่งดื่มเหล้าด้วยว่า นายชาลี คนนี้แหละที่พูดว่าตัวเองค้ายาบ้า หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่านายชาลี ถูกนายอุเทน ทำร้ายร่างกาย เพราะไม่ได้ยินเสียงชาลีร้องขอความช่วยเหลือ ได้ยินแค่ผู้เป็นพ่อตานายอุเทน ที่บอกว่าพอแล้วๆ กระทั่งตกเย็นจึงมารู้ว่านายชาลีเสียชีวิต เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นนายอุเทน ก็บอกกับเจ้าหน้าที่แค่ว่านายชาลี เมาแล้วล้มหัวฟาดเสียชีวิตเอง
นางเอ ยังบอกอีกว่า ถ้านายอุเทน ไม่ดื่มเหล้าก็จะนิสัยดี แต่พอเมาแล้วจะเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหร้าย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นทำร้ายคนในครอบครัว จึงเชื่อว่าที่ก่อเหตุทำร้ายเพื่อนเสียชีวิตในครั้งนี้ ก็จะน่าเพราะฤทธิ์เหล้า
ซึ่งเบื้องต้นนายอุเทน ถูกแจ้ง ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และเตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในวันพรุ่งนี้
โดยวันนี้นายอุเทน ผู้ต้องหาก็มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวถามก็ไม่ยอมตอบอะไร แต่ก็ให้ความร่วมมือในการทำแผนชี้จุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จึงใช้เวลาในการทำแผนเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้น และไม่มีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายแต่อย่างใด เพราะมีเพียงแม่ ภรรยา และญาติของผู้ต้องหา ที่มารอดูการทำแผนไม่กี่คนเท่านั้น แต่ไม่มีญาติผู้ตาย และชาวบ้านมารอดูการทำแผนเลย ซึ่งอาจเพราะเนื่องจากช่วงนี้ทางภาครัฐ ได้มีมาตรการคุมเข้มให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดด้วย
จากการสอบถาม นางเอ (นามสมมติ) น้าของผู้ต้องหา ซึ่งอยู่บ้านติดกัน บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นนายชาลี มาดื่มเหล้ากับนายอุเทน ที่บ้านบ่อยครั้ง เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน วันเกิดเหตุตนไม่ได้ยินว่าทั้งสองทะเลาะกัน และไม่ได้ยินนายชาลี พูดว่านายอุเทน ขายยาบ้าเลย ได้ยินแต่นายอุเทน ที่เป็นคนพูดกับพ่อตา ที่มานั่งดื่มเหล้าด้วยว่า นายชาลี คนนี้แหละที่พูดว่าตัวเองค้ายาบ้า หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่านายชาลี ถูกนายอุเทน ทำร้ายร่างกาย เพราะไม่ได้ยินเสียงชาลีร้องขอความช่วยเหลือ ได้ยินแค่ผู้เป็นพ่อตานายอุเทน ที่บอกว่าพอแล้วๆ กระทั่งตกเย็นจึงมารู้ว่านายชาลีเสียชีวิต เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นนายอุเทน ก็บอกกับเจ้าหน้าที่แค่ว่านายชาลี เมาแล้วล้มหัวฟาดเสียชีวิตเอง
นางเอ ยังบอกอีกว่า ถ้านายอุเทน ไม่ดื่มเหล้าก็จะนิสัยดี แต่พอเมาแล้วจะเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหร้าย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นทำร้ายคนในครอบครัว จึงเชื่อว่าที่ก่อเหตุทำร้ายเพื่อนเสียชีวิตในครั้งนี้ ก็จะน่าเพราะฤทธิ์เหล้า
ซึ่งเบื้องต้นนายอุเทน ถูกแจ้ง ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และเตรียมส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในวันพรุ่งนี้