สถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดปัตตานี มียอดผู้ติดยังคงอยู่ที่ 44 ราย เฝ้าระวังรอผลยื่นยันอีก 52 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 เมษายน 2563 ภายหลังจากที่มีมาตรการในการประกาศเคอฟิวตั้งแต่ 4ทุ่ม จนถึง ตี4 ได้มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ร่วมทั้งกลุ่มแรงงานที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย ต่างพากันทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเองใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้บริเวณด่านตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานีมีรถติดยาวเหยียด และเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจบุคคล และคัดกรองอย่างเข้มงวดแก่ผู้เดินทางผ่านด่านดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่ผ่านด่าน และสอบถามข้อมูลอย่างละเอียด นอกจากนนี้ ประชาชนจะต้องมีการแสดงใบรับรองแพทย์ให้กับเจ้าหน้าที เพื่อยื่นยันไม่มีการติดเชื้อโควิด19 หากพบผู้มีความเสี่ยง เจ้าหน้าที่จะทำการแยกตัว และพาไปตรวจสภาพร่างกายในขั้นต่อไป
อย่างไรก็ตามด่านตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ. ปัตตานี จะเป็นด่านใหญ่ประตูแรก ซึ่งเป็นประตูเมืองขาเข้าลงสู่3จังหวัดชายแดน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และขาออกสู่ภาคใต้ตอนบน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าระวังบุคคล และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางผ่านด่านเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโควิด19ไปยัง 3จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตามด่านตำบลท่ากำชำ อ.หนองจิก จ. ปัตตานี จะเป็นด่านใหญ่ประตูแรก ซึ่งเป็นประตูเมืองขาเข้าลงสู่3จังหวัดชายแดน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และขาออกสู่ภาคใต้ตอนบน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ได้มีการเฝ้าระวังบุคคล และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางผ่านด่านเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโควิด19ไปยัง 3จังหวัดชายแดนภาคใต้