กรมควบคุมโรคเผย ผู้ป่วยใหม่ 104 ราย พบ 41 ราย มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า ขณะ 22 รายมาจากตปท. โดยเดินทางทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย-มาพร้อมกับโรค ส่วนกลุ่มติดจากสนามมวย สถานบันเทิงเริ่มลด ระบุสถานการณ์โลกโรคกระจายไปไกล แต่ไทยและฝั่งเอเชียยังดีกว่าฝั่งยุโรป โดยใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองถึง 93% นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ป่วยรายใหม่จำนวน104ราย ในจำนวนนี้ 41รายเป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หากได้รับยืนยันว่าป่วย จะมีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งหากผู้สัมผัสเหล่านี้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีก็จะทำให้การติดตามตัวง่ายขึ้น นำไปสู่การกักกันตัวเองเป็นเวลา14วัน รวมถึงการเว้นระยะห่างจากผู้อื่นเพื่อเฝ้าดูสังเกตอาการซึ่งจำเป็นต้องทำทุกวัน และหากมีอาการป่วย ไอ ไข้ เจ็บคอ หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจก็จะได้รับการใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันการติดตามกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดในประเทศไทยมีระบบติดตามที่ดีขึ้นและเข้มข้น ประกอบกับในปัจจุบันประชาชนให้ความร่วมมือตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งไว้เป็นอย่างดีซึ่งต้องขอบคุณ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ป่วยยืนยันอีกกลุ่มที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังคือ กลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและการบินพลเรือนเท่านั้นหลังการเฝ้าสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทางในระยะเวลา 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอาการป่วยจึงเดินทางกลับประเทศไทย อีกทั้งในระหว่างเดินทางจำเป็นต้องป้องกันตนเอง วัดไข้ก่อนขึ้นเครื่องบินและสวมหน้ากากอนามัยหมั่นล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่นเพื่อลดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันในกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศนั้นมีประมาณ 22 คน บางคนขึ้นเครื่องเดินทางกลับมาโดยไม่รู้ว่ามีอาการป่วยซึ่งเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งอาการป่วยอาจจะแย่ลงในระหว่างเดินทางก็ได้จึงขอความร่วมมือประชาชนไม่เดินทางระหว่างมีอาการเจ็บป่วย นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จะเห็นว่าในปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อจากกลุ่มสถานบันเทิง สนามมวย หรือสถานบริการที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวมีน้อยลง แต่ก็ยังมีการเดินทางเข้ามาอยู่ซึ่งอาจจะมาพร้อมกับโรค เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ตรวจพบเชื้อ ดังนั้น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องก็จำเป็นที่จะต้องป้องกันตัวเองตามมาตรการอย่างเข้มข้น ด้านนพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยต่อสู้กับโควิดมา 2-3เดือน โดยปัจจุบันสถานการณ์ของโรคได้กระจายไปไกล มีผู้คนทั่วโลกติดเชื้อใกล้เฉียด 1 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 47,000 ราย โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลักๆคือ 1.กลุ่มยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันพบป่วยในระดับ 10,000 ราย 2.กลุ่มเอเชียที่ยังพบผู้ป่วยในหลัก 1,000 ราย ซึ่งเทียบกับกลุ่มยุโรปอเมริกาจำนวนแตกต่างกันมาก และจากข้อมูลพบว่าคนไทยและคนในทวีปเอเชียมีการสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ร้อยละ 93 ต่างจากคนทางฝั่งยุโรปที่สวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันน้อยมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าผู้ที่สวมใส่คือผู้ป่วยทำให้การแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในฝั่งยุโรปมาก ซึ่งการสวมใส่หน้ากาก หรือมาตรการอื่นที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่เราทำได้เองเพื่อความปลอดภัยที่ทุกคนสามารถปฏิบัติเองได้เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัวเพราะถ้าหากมีคนในครอบครัวติดเชื้อก็จะส่งกระทบกับดารใช้ชีวิตที่จะต้องกักตัวและเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วันด้วย