"ฝ่ายค้าน"ประกาศพร้อมร่วมมือรบ.ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน หนุนรัฐใช้มาตรการเข้ม วอนปชช.ช่วยกัน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกแถลงการณ์ว่า สถานการณ์ของบ้านเมืองเราวันนี้เจอโจทย์ปัญหาที่ใหญ่และหนักหนาสาหัสจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง เป็นเรื่องที่ท้าทายพวกเราทุกคนในชาติว่าเราจะสามารถฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้หรือไม่ ทั้งนี้ผมมองว่าชีวิตของพี่น้องประชาชนสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง เราต้องร่วมกันทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของประชาชนไว้ด้วยวิธีที่ชาญฉลาด และสร้าง บาดแผลให้กับประเทศน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมและพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลทั้งในด้านการจัดสรรงบประมาณ การออกกฎหมายเร่งด่วน และการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่สร้างสรรค์ เพื่อเราจะได้ฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน วันนี้หมอ พยาบาล และบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเป็นนักรบแนวหน้าให้กับพวกเรา กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะเอาชนะกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกฝ่ายในสังคมต่างช่วยสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ ในขณะที่รัฐบาลก็พยายามทำงานอย่างหนักเช่นกัน แม้ว่าแนวทางการรับมือของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมายังขาดความเป็นระบบและขาดการมองปัญหาให้ครบทุกมิติ ทุกมาตรการหรือคำสั่งการล้วนเป็นการแก้ปัญหาหนึ่ง และสร้างอีกปัญหาหนึ่งขึ้นมา การเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา นอกจากต้องมองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาให้รอบด้านแล้ว ยังต้องคำนึงถึงมิติของการเคารพในความเป็นมนุษย์ เคารพในการมีส่วนร่วมรับรู้ร่วมชะตากรรมร่วมกันของทั้งสังคม ยึดหลักการจัดการที่เน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน และคำนึงถึงหลักการจัดการที่ให้เกิดความยุติธรรมและทั่วถึงกับคนทุกส่วนในสังคม วันนี้ผมคิดว่ารัฐบาลต้องมีความเด็ดขาด และชัดเจนโปร่งใส เพื่อยับยั้งไวรัสโควิด-19 ไม่ให้ลุกลามมากจนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรับมืออย่างเช่นในประเทศอิตาลี นั่นหมายความว่าหมอ พยาบาล ซึ่งเป็นนักรบแนวหน้าของเราต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือในการป้องกันที่พรั่งพร้อมไม่ขาดแคลนจนต้องออกมาขอรับบริจาค การรณรงค์เรื่อง “การสร้างระยะห่างทางสังคม” (Social Distancing) และการปฏิบัติตัวเพื่อการป้องกันตัวเองของประชาชน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น…จำเป็นที่จะต้องเสริมความเข้าใจให้กระจ่างชัดและทั่วถึง เพราะนี่ถือเป็นการลงทุนป้องกันที่มีค่าใช้จ่ายน้อยสุด หากสามารถทำได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพจะส่งผลสำเร็จต่อการหยุดยั้งโรคร้าย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด กระจายตัวออกไปได้ในวงกว้างจนเกินการควบคุม นอกจากนี้ ปัญหาเศรษฐกิจอันเป็นสืบเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ก็เป็นโจทย์ใหญ่ที่หนักหนาไม่แพ้กัน ที่รัฐบาลจะต้องมีมาตรการและแผนรองรับที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งบประมาณปี 2563 ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งพวกเราพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมที่จะให้ความร่วมมือหากสิ่งที่รัฐบาลต้องการสามารถช่วยเหลือประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้จมดิ่งลงไปในเหวลึกมากกว่าที่เป็นอยู่ ประเทศยามนี้มีปัญหาหลายสิ่งที่ถาโถมเข้ามารอบด้าน ทั้งโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาไฟป่าทางภาคเหนือ ปัญหาภัยแล้ง เป็นบทพิสูจน์ความร่วมมือร่วมใจของพวกเราคนไทยทุกคน ในการเอาชนะวิกฤติการณ์ที่หนักหนาสาหัสครั้งนี้ ในฐานะของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ผมเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชน ประชาชนเองก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และฝ่ายค้านพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลในอย่างเต็มที่ “นี่คือเวลาที่จะหันหน้าเข้ามาร่วมมือกัน ช่วยนำพาประเทศ ให้พ้นจากวิกฤติ”