ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด ชายวัย 48 เป็นนักดนตรีป่วยหลายโรค ขณะผู้ติดเชื้อใหม่ 137 ราย พบยังมีติดจากกลุ่มสนามมวยอีก 4 สถานบันเทิง 11 กลุ่มใกล้ชิดคนป่วยเดิมอีก 47 ทั้งมีที่ติดจากสถานที่ชุมชนอีก 6 กลุ่มบุคลากรการแพทย์ติดเพิ่มอีก 3 ขณะพบอายุผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน 30-39 ปี ที่เป็นพาหะนำเชื้อกลับไปติดคนที่บ้านได้ โดยยอดผู้ติดเชื้อในกทม.ยังสูงสุด ตามด้วยภาคใต้ ภาคกลาง ระบุประเด็นเชื้อไวรัสอิตาลีแรงกว่าจีนนั้นยังเป็นแค่ความเห็นนักวิชาการ ต้องรอการพิสูจน์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์ฯ ได้แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 127 ราย เสียชีวิตอีก 1 ราย รวมยอดป่วยสะสม 1,651 ราย ยอดเสียชีวิตรวมแล้ว 10 ราย ขณะพบมีบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย รวมป่วยเป็น สัญชาติไทย 1,407 ราย สัญชาติอื่น 244 ราย รักษาหายแล้วเพิ่มอีก 215 ราย ยอดรวมเป็น 342 ราย และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,299 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ เป็นชายไทยอายุ 48 ปี มีอาชีพเป็นนักดนตรี ทำงานอยู่ในกทม. มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน และมะเร็ง เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 20 มี.ค. มีอาการ ไอ เป็นไข้ และหอบมากขึ้น หลังกลับภูมิลำเนาได้เข้ารักษาที่ โรงพยาบาลอำเภอในภาคอีสาน จากนั้นส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนระบบหายใจล้มเหลว ติดเชื้อในกระแสเลือด และ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 มี.ค.63 สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 127 ราย จำแนกได้ดังนี้ 1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 62 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 4 ราย / สถานบันเทิง 11 ราย / สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 47 ราย 2.ผู้ป่วยอื่นๆ 49 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 17 ราย / คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย / อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 9 ราย / บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 3 ราย / ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ราชการ 6 ราย / อื่นๆ 8 ราย 3.รอรายละเอียดจากการสอบสวนโรค 16 ราย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลผู้ติดเชื้อสะสม พบว่า ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 30-39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน ดังนั้น คนกลุ่มนี้หากออกมาทำงานสามารถเป็นพาหะนำเชื้อกลับไปติดคนในบ้านได้ ประกอบกับยังพบผู้ป่วยในพื้นที่กทม.มากสุด 869 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 77 ราย ภาคเหนือ 55 ราย ภาคกลาง 172 ราย ภาคใต้ 206 ราย ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชน เว้นระยะห่างทางสังคม และ อยู่บ้านหยุดเชื้อ ส่วนมาตรการการปิดเมืองจะใช้เฉพาะบางจุด และในพื้นที่กทม.ยังเป็นไปในแบบเดิมตามที่ได้ประกาศไป ซึ่งหากจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น ในส่วนประเด็นไวรัสจากอิตาลีรุนแรงกว่าจีน ยังต้องมีการพิสูจน์ เพราะขณะนี้ยังเป็นความเห็นจากนักวิชาการ