เมื่อวันที่ 30 มี.ค.63 ที่หน้าเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หลังเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำบุรีรัมย์มีกลุ่มผู้ต้องขัง จุดไฟเผาเรือนนอน หลังมีนักโทษใหม่พึ่งเข้า ไปปลุกปั่นเรื่องโควิด-19 ช่วงเช้า มีญาติผู้ต้องขังประมาณกว่า100คนเพื่อขอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยส่วนใหญ่เป็นห่วงลูกหลาน ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจล และไม่รู้ปลอดภัยหรือไม่อย่างไร หรือถูกย้ายไปอยู่ชั่วคราวที่ไหนซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์และเจ้าหน้าที่เรือนจำฯคอยดูแลรักษาความปลอดภัย เวลา 13.00 น. บรรดาญาติของผู้ต้องขังกว่า 100 คน ได้มารอฟังข่าวความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ ด้วยเป็นห่วงลูกหลานได้ย้ายมารออยู่ที่ โดมเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้น มีผู้ต้องขังร่วมก่อเหตุทั้งหมด 11 คน เจ้าหน้าที่ตามจับได้แล้ว10คน เหลือเพียง 1 คน ที่ยังหลบหนีคือนายธันยพงศ์ สินพูน อายุ26ปี ผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดียาเสพติด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างไล่ล่าตัว และรู้เส้นทางหลบหนีแล้ว ภายในวันนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเสียหายภายในเรือนจำ ซึ่งยังไม่ประเมินค่าความเสียหายได้เบื้องต้นพบว่าเสียหาย100 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงสถานพยาบาล ที่ยังอยู่ในสภาพปกติ ส่วนผู้ต้องขังกว่า 2,106 คนที่ถูกย้ายไปตามเรือนจำใกล้เคียง 18 แห่ง อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ ก่อนประกาศให้ญาติทราบ โดยรายชื่อทั้งหมดจะติดด้านหน้าเรือนจำ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียง 1 คน ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และ อาการปลอดภัยแล้ว ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดภายในเรือนจำ ก่อนช่วงเกิดเหตุพบว่ายังมีอีก1ผู้ต้องขังที่น่าจะเป็นแกนนำหลักในการวางแผน ปลุกระดมให้เกิดเหตุจลาจลโดยทราบตัวแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือไฟแช็กทางกลุ่มผู้ต้องขังเอามาจากโรงครัวทั้งหมด ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุ ต้องรอการสอบสวนของทางตำรวจที่ชัดเจนอีกครั้งแต่เบื้องต้นมีการกล่าวอ้างเรื่องเชื้อโควิด-19 และต้องรอประเมินความเสียหาย อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ มีรายงานข่าวด้วยว่า สำหรับผู้ต้องขังชาย จำนวน 1,902 คน ถูกย้ายไปยังเรือนจำข้างเคียง ดังนี้ เรือนจำจังหวัดยโสธร 25 คน เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ 50 คน เรือนจำอำเภอพล 57 คน เรือนจำอำเภอกันทรลักษณ์ 20 คน เรือนจำอำเภอท่าพริก 620 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 200 คน เรือนจำจังหวัดนครพนม 200 คน เรือนจำคลองไผ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดนครราชสีมา 100 คน เรือนจำอำเภอสง่างาม 30 คน เรือนจำจังหวัดสุรินทร์ 150 คน เรือนจำรัตนบุรี 50 คน เรือนจำอำเภอบัวใหญ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ 50 คน เรือนจำอำเภอนางรอง 93 คน เรือนจำอำเภอสีคิ้ว 100 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 50 คน ส่วนผู้ต้องขังหญิง ถูกไปย้ายยัง เรือนจำนางรอง จำนวน 93 คนและ เรือนจำทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา จำนวน 111 คน รวม 204 คน วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการติดตามตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีออกนอกเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ว่า ตรวจสอบพบว่าหนีออกจากเรือนจำ 11คน จับได้แล้ว 10คน หลบหนีไปได้1 คน คือนายธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26ปี ชาวบุรีรัมย์เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ได้กระจายออกไปสู่เรือนจำใกล้เคียง ยืนยันเรือนจำทั่วประเทศ พบผู้ต้องขัง ติดเชื้อเพียง1ราย ได้เข้ารักษาที่รพ.แล้วและไม่มีผู้ต้องขัง เชื้อติดโควิด-19เพิ่ม ขอให้ทุกฝ่ายอย่าวิตกกังวล ทุกเรือนจำมีมาตรการเข้ม “ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้น ความเสียหายที่เรือนจำบุรีรัมย์แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลานี้กำลังเร่งให้ประเมินค่าความเสียหาย และได้สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วว่า ใครเป็นคนปลุกปั่น ส่วนสาเหตุทั้งหมดอย่างละเอียดเป็นมาอย่างไร ต้องใช้เวลาสอบสวน เพราะผู้ต้องขังเวลานี้ กระจายไปกว่า10เรือนจำ” รมว.ยุติธรรม กล่าว