พาณิชย์ คาด ประมูลขายข้าวเสื่อม 1.03 ล้านตันที่คนและสัตว์ ไม่สามารถบริโภค ได้หมด เมื่อวันที่ 28 เม.ย.60 นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยถึง ผลการเปิดประมูลขายข้าวเสื่อมคุณภาพที่คนและสัตว์ไม่สามารถ บริโภคได้จำนวน 1.03 ล้านตัน เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทธานอล เมื่อวานนี้ ( 28 เม.ย.) ซึ่งมีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเสนอซื้อ 21 ราย คาดว่า น่าจะขายได้ทั้งหมด และมีมูลค่า กว่า 3,000 ล้านบาท โดย จะเสนอให้คณะอนุกรรมการระบายข้าว พิจารณา ได้ภายในวันที่ 8 พค. นี้ โดย ในการประมูลครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่มีผู้เสนอซื้อ 1 ราย เหมาหมดทุกคลัง คือ T.P.K. Ethanol co ltd เสนอซื้อหมด ทั้ง 57 คลัง ใน 34 จังหวัด ในราคาเฉลี่ย กก.ละ 3 บาท แต่ทั้งนี้ หากมีผู้เสนอซื้อรายอื่นเสนอซื้อมาในราคาสูง กว่า ในบางคลัง ทางบริษัทนี้ อาจจะไม่ได้ ข้าวไปทั้งหมด ที่ผ่านมา ได้ระบายข้าว ในช่วงภายใต้การบริหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แล้วจำนวน 12.72 ล้านตัน จากสต็อก ที่มีอยู่ 17.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 111 .746 พันล้านบาท โดยมีภาระต้นทุนการเก็บรักษาที่สูงเฉลี่ยถึงวันละ 17 ล้านบาท หาก ขายข้าวเสื่อมล็อตนี้ออกไปได้ 1.03 ล้านตัน จะทำให้รัฐบาลเหลือ ข้าวในสต็อก เพียง 4 ล้านตัน โดยสต็อกข้าวที่เหลือนี้ ประกอบด้วย ข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวที่คนสามารถบริโภคได้ตามปกติ จำนวน 1.72 ล้านตัน ที่จะนำมาเปิดประมูลเป็นการทั่วไปภายในเดือน พ.ค.นี้ รวมทั้ง ข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่คนไม่สามารถบริโภคได้ แต่นำไป เข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้ อีกจำนวน 2.15 ล้านตันซึ่งจะนำมาเปิดประมูลในเดือน มิ.ย.นี้ สำหรับ การะบายข้าวทั้งหมดน่าจะดำเนินการได้ทัน ภายใน เดือนกย. ปีนี้ แม้จะไม่ทัน ภายในเดือนกย. แต่จะทำให้ ปริมาณข้าวในสต็อกเหลือ เพียง 1 -2 ล้านตันที่เป็น safety stock ปกติ ของประเทศ และจะทำให้ ลดแรงกดดัน ผลกระทบที่จะกดราคาข้าวให้ต่ำลงในอนาคต นายกีรติ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ราคาส่งออกข้าวของไทยปัจจุบันอยุ่ในสถานะที่แข่งขันได้ โดยราคาข้าวขาว 5 % เอฟ โอ บี อยู่ที่ 387 เหรียญสหรัฐ ต่อตัน ข้าวหอมมะลิ 100 % ราคา 660 เหรียญสหรัฐ ต่อตัน ,ข้าวนึ่ง ราคา 393 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยข้าวหอมมะลิไทยในตลาดฮ่องกงขณะนี้ ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 70 จากปีก่อน ส่วนแบ่งอยู่ที่ ร้อยละ 60 สำหรับการส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 26 เม.ย.2560 ไทยส่งออกข้าวแล้วจำนวน 3.87 ล้านตัน เพิ่มขึ้น12.13% คิดเป็นมูลค่า 56,000ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.67% หรือ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าการส่งออกข้าวไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ส่งออก 10 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกข้าวของไทยยังอยู่ในภาวะที่ดี โดยตลาดต่างประเทศยังให้ความสนใจต่อข้าวไทยจากราคาและคุณภาพที่แข่งขันได้ โดยขณะนี้ ไทยอยุ่ระหว่างการเจรจาขายข้าวให้กับทาง อิรัก อิหร่าน ฟิลิปปินส์ และ จีน โดยกำลังอยุ่ระหว่างการเจรจากับจีน เพื่อขอให้มีการลงนาม ซื้อขายข้าว ล็อตที่ 2 อีก 1 ล้านตัน หลังจีนได้ลงนามซื้อข้าวจากไทยไปแล้ว 1 ล้านตัน ในปีก่อน โดยขณะนี้ได้มีการส่งมอบไปแล้ว 6 แสนตัน นอกจากนี้รัฐบาลศรีลังกามีความสนใจจะซื้อข้าวขาวและข้าวนึ่งจากไทยจำนวน 2 แสนตัน และ บังคลาเทศ อยุ่ระหว่างการเตรียมการลงนามเอ็มโอยูซื้อขายข้าวกับไทย รวมทั้งโมซัมบิก ที่ในใจจะซ้อข้าวจากไทยกว่า แสนตัน