นายองอาจ ประภากมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู จีเอส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ภายใต้บริษัท ทรู จีเอส จำกัด ร่วมกับ จีเอส โฮม ช้อปปิ้ง (GS Home Shopping) ผู้นำโฮมช้อปปิ้งอันดับ 1 จากเกาหลี เปิดเผยว่า “ทรู ช้อปปิ้ง (True Shopping) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดโฮมช้อปปิ้งด้านสินค้ากลุ่มความงามและสุขภาพในประเทศไทยด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย พร้อมอัตราการเติบโตกว่า 18.5% จากยอดขายในปีก่อน (2562) คิดเป็นมูลค่า 1,530 ล้านบาท และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งส่งผลให้คนส่วนใหญ่ไม่ออกไปจับจ่ายซื้อของกันนอกบ้าน นับเป็นความได้เปรียบของตลาดโฮมช้อปปิ้งที่เพียงแค่ชมทีวี และสั่งซื้อสินค้า พร้อมรอรับบริการจัดส่งถึงบ้าน ทั้งบริการหลังการขายที่สามารถเปลี่ยนคืนได้หากไม่พึงพอใจ จึงทำให้มั่นใจว่าตลาดโฮมช้อปปิ้งจะเติบโตขยายตัวสูงสวนกระแสเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2563 นี้ ทั้งนี้ทรู ช้อปปิ้ง ก้าวสู่ปีที่ 9 ช่องโฮมช้อปปิ้งที่ยังคงจุดเด่นเรื่องของสินค้า Beauty Channel อันดับ 1 ในประเทศไทย นำเสนอสินค้าจากศิลปินดารานักแสดงชั้นนำ และแบรนด์นำเข้าจากประเทศเกาหลี ที่ได้รับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทยให้ลูกค้าได้เลือกจับจ่ายได้ทุกช่องทางทั้งแพลตฟอร์มทีวีและออนไลน์ เอาใจขาช้อปด้วยการตลาดในรูปแบบ CRM ที่ให้เงินคืนทุกการช้อปปิ้งรายแรกของวงการโฮมช้อปปิ้งเมืองไทย ด้วยแคมเปญเด็ดมัดใจลูกค้า "ทรู ช้อปปิ้ง พลัส" (True Shopping Plus) ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ใช้ชีวิตแบบพลัส พลัส ที่ให้ทุกการช้อปปิ้งได้รับเงินคืน 5-12% สุดคุ้มตั้งแต่ช้อปครั้งแรกรับเงินคืนสะสม 5% สำหรับเป็นส่วนลดในครั้งต่อไป พร้อมปรับสถานะเป็น Gold หรือ VIP ง่ายๆ ภายในระยะเวลา 90 วัน รับส่วนลดรวมสูงสุดถึง 12% นับเป็นสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเงินคืนจากทุกการช้อปปิ้ง พร้อมใช้เป็นส่วนลดโดยไม่มีขั้นต่ำ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้เจ้าของธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าผ่านทุกช่องทางการขาย ทั้งโฮมช้อปปิ้ง ออนไลน์ และช่องทางการขายอื่นๆ โดยสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ "โททัล โซลูชั่น" (Total Solution) เป็นเสมือนผู้ช่วยร้านค้าในการดูแลสินค้า และให้บริการแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่ระบบจัดการคลังสินค้า คอลเซ็นเตอร์รับออเดอร์ บริการหลังการขาย การรับชำระเงินทุกช่องทาง ตลอดจนการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ พร้อมจัดเต็มทุกช่องทางการซื้อขายที่เข้าถึงได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมงบนทุกแพลตฟอร์มทีวีและออนไลน์ โดยมีแบรนด์ชั้นนำให้ความสนใจใช้บริการแล้วกว่า 20 ราย พร้อมตั้งเป้ายอดขายจากโมเดลธุรกิจนี้กว่า 100 ล้านบาท ในสิ้นปี 2563