“จุรินทร์”สั่งขยายเวลาห้ามส่งออกไข่ไก่ต่ออีก 30 วัน พร้อมเปลี่ยนระบบจัดสรรหน้ากากอนามัย 2.3 ล้านชิ้น ให้ “สาธารณสุข-มหาดไทย”มาบริหารจัดการแทน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เปิดเผยว่า ตามที่ห้ามส่งออกไข่ไก่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 7 วันตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 จะครบกำหนดวันที่ 31 มี.ค.63 แต่สถานการณ์ขาดแคลนไข่ในประเทศยังคงมีอยู่ จึงได้ขยายคำสั่งห้ามส่งออกไข่ไก่ต่ออีกเป็นเวลา 30 วัน และจะยกเลิกคำสั่งนี้ทันทีหากสถานการณ์ไข่ไก่ในประเทศกลับสู่ภาวะปกติ ปัจจุบันไทยผลิตไข่ไก่ได้ประมาณวันละ 41 ล้านฟอง เดิมส่งออกวันละหลักแสนถึง 1 ล้านฟอง โดยตั้งแต่วันนี้ (30 มี.ค.)เป็นต้นไป การจัดสรรหน้ากากอนามัยจะเปลี่ยนระบบใหม่ โดยรัฐบาลเป็นผู้จัดซื้อจากโรงงานผลิต และมาแบ่งเป็น 2 กอง กองแรกให้กระทรวงสาธารณสุข 1.3 ล้านชิ้นไปบริหารจัดการตามเดิม โดยจัดสรรให้โรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนตามเดิม ส่วนกองที่ 2 อีก 1 ล้านชิ้น เปลี่ยนจากเดิมให้กรมการค้าภายในบริหารจัดการไปให้กระทรวงมหาดไทยบริหารจัดการ เนื่องจากปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แก้ไขปัญหาโควิด-19 ระดับจังหวัด ดังนั้นควรมีหน้ากากอนามัยบริหารจัดการด้วย โดยกระจายไปทุกจังหวัดโดยตรง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการภายในจังหวัดได้ ทั้งการจัดสรรฟรีให้กลุ่มเสี่ยงและการจำหน่ายในร้านต่างๆตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตามยังคงกำลังการผลิต 2.2-2.3 ล้านชิ้นต่อวัน สำหรับต้นทุนการผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นนั้น อธิบดีกรมบัญชีกลางจะเป็นประธานพิจารณากำหนดราคากลางหน้ากากอนามัย เพื่อพิจารณาจัดสรรเงินสนับสนุนซื้อจากโรงงานในราคาที่ช่วยให้สามารถผลิตหน้ากากอนามัยต่อไปได้ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 31 มี.ค.63