ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปเกือบ 60 จังหวัดของไทย เพจเฟซบุ๊ก “เรื่องเล่าหมอชายแดน” ของคุณหมอเบียร์ แห่งโรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ได้โพสต์บอกเล่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่เรียกว่าสามารถที่จะควบคุมได้โดยความร่วมมือร่วมใจอย่างน่าชื่นชม โดยระบุ “วันนี้หมอเบียร์จะขอมาเล่าสถานการณ์ของการระบาด COVID-19 ภายในพื้นที่อำเภอแม่สอด เราเริ่มเตรียมรับการระบาดกันตั้งแต่กลางเดือนมกราคม เมื่อได้ข่าวว่าน่าจะมีการระบาด โดยใช้โมเดลการรับมือแบบ SARS และ MERS แบ่งเป็นการจัดการภายในโรงพยาบาล มีทีมงานคือ แพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกระดับ มีการสร้างแนวทางเพื่อให้การทำงานในโรงพยาบาลมีความถูกต้องและเป็นแนวเดียวกัน เราเริ่มสต๊อคของใช้ต่างๆทั้ง ชุด PPE หน้ากาก N95 หน้ากาก Surgical mask กระจังหน้า แอลกอฮอลล์ ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนพวกเราก็พยายามทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่เพื่อให้แม่สอดของเราพร้อมที่สุด เราพบว่าเรามีพยาบาลที่ใจสู้ที่สุด มีความชำนาญในการปฏิบัติงานที่สุด และมีน้ำใจให้กันและกันแม้ในช่วงที่เสี่ยงตายแบบนี้ พวกเราช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองให้กับด่านหน้าทุกคนทั้งแมส แอลกอฮอลล์เจล และกระจังหน้า โดยได้รับความช่วยเหลือจากจิตอาสา ประชาชนทั่วไปและแม้กระทั่งพระสงฆ์ก็มาช่วยเราทำ การจัดการภายนอกโรงพยาบาล เบียร์ขอยกความดีในการจัดการระบาดครั้งนี้ให้กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ขับเคลื่อนในชุมชน ตั้งแต่ผู้รับผิดชอบหลักคือ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สอด กระจายงานสู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ประชาชนในหมู่บ้าน
พวกเขาเหนื่อยมานานเกือบ 3 เดือน มาเฝ้าที่ด่านท่าเรือ เฝ้าที่ด่านบก ด่านประจำหมู่บ้านเพื่อคัดกรองคนใหม่เข้าออกจากพื้นที่เสี่ยง จำนวนคนที่พวกเขาคัดกรองต่อวันเกือบ 2 หมื่นคน ต้องไปลงทะเบียนทุกคนที่เข้ามาใหม่ เช่น มาจากต่างประเทศต่างๆ มาจากเกาหลี และปัจจุบันต้องเฝ้ากักกันผู้ที่กลับจากกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งเป็นหน้าที่ที่หนักมาก...โดยที่พวกเขาไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรเลย
ผู้ที่มีความเสี่ยง 1 คน ต้องเฝ้ากักกัน 14 วัน พวกเขาต้องทำงานติดตามทุกวัน..เป็นเวลา 3 เดือนล่วงมาแล้ว ในอนาคตต่อจากนี้พวกเขาก็ยังต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปจนกว่าการระบาดจะสงบลง พิสูจน์แล้วว่ากลยุทธ์ Home quarantine การกักกันตัวเองของผู้ที่มีความเสี่ยงอยู่ในบ้านตลอด 24 ชั่วโมงนาน 14 วัน คือกลยุทธ์ที่ทำให้แม่สอดเรารอด..จริงๆค่ะ หากพวกเราจะช่วยแบ่งเบาภาระที่พวกเขากำลังทำเพื่อพวกเราคนแม่สอดทุกคน.....ช่วยกันอยู่บ้านนะคะ ช่วยกันสอดส่องดูแลผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ตอนนี้เราเป็นพื้นที่เกือบปลอดโรค หากไม่มีเคสเพิ่มเราทุกคนจะปลอดภัยค่ะ โควิดติดง่าย ตายได้ แต่ป้องกันง่ายที่สุดเพียงอยู่บ้าน #อสม สู้ๆๆๆ”