จากกรณ๊นักโทษเกิดเหตุจลาจล จุดไฟเผาเรือนจำบุรีรัมย์ ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น ล่าสุด วันนี้ (29 มี.ค.63) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยง แต่ช่วงเวลา 15.00 น. ก็เกิดเหตุพลิกผัน เนื่องจากมีกลุ่มผู้ต้องขังจุดไฟเผาเรือนนอนจำนวน 3 เรือนนอน จนเกิดควัน และไปส่งผลกระทบกับนักโทษคนอื่นที่อยู่ตามกรอบ ทำให้สำลักควัน จนต้องนำผู้ต้องขังออกมาใหม่ทั้งหมด โดยความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็ได้จัดการย้ายนักโทษหญิงทั้งหมดไปยังเรือนจำอื่นแล้ว นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ คือ โรงอาหาร ห้องทนาย ห้องบัญชี ห้องเยี่ยมญาติ และห้องผู้ต้องขังใหม่ ซึ่งถูกเผาทั้งหมด โดยเรือนจำบุรีรัมย์มีพื้นที่ 9 ไร่ มีแดนเดียว พร้อมย้ำว่า ผู้ต้องขังที่มีปัญหา มีประมาณ 100 คน ซึ่งยอมรับว่านักโทษส่วนใหญ่กลัวเรื่องโควิด-19 แต่สิ่งที่นักโทษกลัว ตนก็พยายามทำประชาสัมพันธ์ไปทุกเรือนจำให้รับรู้ข้อมูลโควิด-19 แต่ก็ยังเกิดความกลัว ประกอบกับมีผู้ต้องขังใหม่คนหนึ่งที่ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยคนนี้เข้าไปก็ปลุกปั่นให้เกิดเหตุ "เหตุการณ์ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ออกจากเรือนจำมาอยู่ด้านนอกทั้งหมดแล้ว และเกิดการต่อรอง โดยผู้ต้องขังด้านในก็กดดันกันเป็นกลุ่มๆ ซึ่งเหตุการณ์กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง ส่วนตัวเลขผู้ต้องขังที่สามารถหลบหนีไปได้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจเช็กได้ เพราะผู้ต้องขังมีจำนวนมาก และยังเกิดความวุ่นวายอยู่ แต่ก็ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าสามารถจับกลับมาได้แล้วจำนวน 7 คน" นายสมศักดิ์ กล่าว เมื่อถามว่า กลุ่มนักโทษที่แหกคุกไปอ้างว่าเพราะกลัวโควิด นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเหตุที่อ้างได้ เพราะขณะนี้เราไม่อนุญาตให้เยี่ยม นอกจากเยี่ยมทางโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ส่วนเยี่ยมใกล้ชิด และมาเห็นหน้ากันผ่านห้องกระจกนั้นเราไม่อนุญาต เพราะกลัวจะติดโควิด-19 ซึ่งหากติดโควิดก็จะวุ่นวาย แต่ตนขอยืนยันว่าเรือนจำบุรีรัมย์ไม่มีนักโทษติดโควิด โดยเป็นข้ออ้างของนักโทษที่ถือโอกาสสร้างสถานการณ์ นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักโทษ หรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ พร้อมเปิดเผยว่า ติดต่อสารกันได้ยากในขณะนี้ ระหว่างตนกับเจ้าหน้าที่ที่บุรีรัมย์ เพราะเหตุการณ์ยังวุ่นวายอยู่.