ร้ายเหลือไม่มีใดปาน เกินโรงพยาบาลที่จะรับมือรักษา สำหรับ เชื้อไวรัสโควิด – 19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ 198 ประเทศทั่วโลก จนตระหนกกันไปทั้งพิภพ ณ ชั่วโมงนี้ พ.ศ.นี้ ก็ไวรัสแผลงฤทธิ์ขย้ำผู้คนจนติดเชื้อล้มป่วยกันไปแล้วเกือบ 5 แสนคน พร้อมกับคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 2 หมื่นศพ อย่างไรก็ดี ก็มีผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาหายจนกลับบ้านได้จำนวนกว่า 1.2 แสนรายด้วยเหมือนกัน ทว่า ด้วยจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากมายมหาศาลเยี่ยงนี้ ก็มีปัญหาตามมาว่า โรงพยาบาลต่างๆ ในแต่ละประเทศ ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่น สถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศอิตาลี ที่ปรากฏว่า มีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนล้ำเกินหน้าประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ต้นตอของเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้นั้น ก็มีสาเหตุจากการที่โรงพยาบาลใน ในอิตาลี มีจำนวนไม่เพียงพอต่อรับมือไวรัสโควิด – 19 ที่กำลังแพร่ระบาดด้วยประการหนึ่ง ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้หลายประเทศ ต้องเตรียมการปรับสถานที่อื่นๆ พลิกฟื้นให้กลายเป็นสถานพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลชั่วคราวกันจ้าล่ะหวั่น โดยหนึ่งในสถานที่ที่ถูกปรับเปลี่ยนก็คือ “โรงแรมหรู (Luxury Hotel)” ระดับ 4 ดาวบ้าง 5ดาวบ้าง ให้เป็น “โรงพยาบาล (Hospital)” เพื่อรองรับกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในหลายรูปแบบด้วยกัน ตามแต่จะกำหนดกัน ได้แก่ การใช้เป็นสถานที่กักกันผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อไวรัส การใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ แต่มีอาการป่วยยังไม่หนักมาก (Mild Case or Mild Symptoms) รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่สำหรับพักชั่วคราวของบุคลากรทางแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ลงพื้นที่รักษาผู้ป่วยโรคโควิดฯ ในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่บรรดาบุคลากรดังกล่าว ในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังทุกข์ทรมานจากโรคร้าย นั่นเอง โดยโรงแรมหรู ที่มีชื่อเสียง และได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ต่อสู้กับมหันตภัยไวรัสร้ายเขย่าโลกในครั้งนี้ ด้วยเปลี่ยนโรงแรมแปลงเป็นโรงพยาบาลข้างต้นนั้น ก็มีอาทิ “ไอเร กรัน โกลอน” โรงแรมหรูระดับ 4 ดาว อยู่ในย่านดาวทาวน์ กลางกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน แดนกระทิงดุ โดยโรงแรมแห่งนี้ กอปรด้วยห้องพัก จำนวน 365 ห้อง และหน้าต่างแต่ละบานล้วนเป็นกระจกสี แถมยังมีส่วนที่ถูกจัดให้เป็นสถานจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ และสวนอันร่มรื่น ซึ่งบรรดาผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่งจะชื่นชมกับภายในโรงแรมที่ได้รับตกแต่ง รีอินโนเวท เมื่อต้นปีนี้ ก็มีอันไม่สามารถเข้าไปภายในโรงแรมหรูที่สวยงามแห่งนี้ได้แล้ว เพราะเขาปรับให้เป็นสถานพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิดฯ ที่มีอาการไม่หนักในสเปน ซึ่งจนกว่าไวรัสร้ายจะปราศนาการไปเมื่อไหร่ ทางโรงแรมก็จะกลับมาเปิดให้บริการกันใหม่อีกครั้ง ส่วนที่สหราชอาณาจักร ทางสำนักบริการสุขแห่งชาติ ก็ได้เจรจาขอใช้พื้นที่ของเบสต์เวสเทิร์น และทราเวลล็อดจ์ ตลอดจนฮิลตัน ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมหรู เป็นโรงพยาบาลชั่วคราวในการรับมือกับโควิดฯ เช่นเดียวกับ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเผชิญหน้ากับโควิด -19 อย่างหนักเช่นกัน ปรากฏว่า ทาง “อักกอร์” กลุ่มธุรกิจด้านโรงแรมและที่พักตากอากาศที่ใหญ่ในฝรั่งเศสและยุโรป ก็ได้โรงแรมในเครือกว่า 40 แห่ง รับมือกับการแพร่ระบาดข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านสถานพยาบาล และที่พำนักของพวกบุคลากรทางการแพทย์พยาบาล ที่กำลังต่อสู้กับไวรัสร้าย นอกจากนี้ ทางฝั่งสหรัฐฯ เช่น ในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ บรรดากลุ่มโรงแรมต่างๆ จำนวนอย่างน้อย 5 แห่ง เช่น กลุ่มโรงแรมในเครืออ็อกซ์ฟอร์ด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เป็นต้น จับมือร่วมกัน รวมแล้วกว่า 1,000 ห้อง ถูกปรับให้เป็นสถานพยาบาลผู้ป่วยโควิดฯ ที่อาการไม่หนัก และผู้ต้องสงสัยที่ถูกกักบริเวณเพื่อสังเกตอาการ ร่วมใจ ร่วมแรง แปลงโรงแรมหรูสู่โรงพยาบาลกันเยี่ยงนี้ ต่อให้เป็นไวรัสร้ายมหาภัยโควิดฯ ก็มีสิทธิ์ถูกพิชิตอย่างราบคาบได้เช่นกัน