ผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ติดตามการกักตัวของ 3 หมู่บ้าน ที่ถูกสั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุมห้ามเข้า-ออก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเสี่ยงสัมผัสหลายราย ยังไม่พบผู้ฝ่าฝืน พร้อมมอบเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและให้กำลังใจ จนท.ประจำด่านตรวจสกัดทั้ง 13 จุด วันนี้(29 มี.ค.63) นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัด พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามการกักตัวของชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 7 บ้านหัวถนน ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด, หมู่ 7 บ้านตากอง และหมู่ 12 บ้านสระกลาง ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย หลังจากทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีมติให้สั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุมห้ามเข้า-ออกหมู่บ้านโดยเด็ดขาด เป็นเวลา 14 วัน เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อภายในวันเดียว 4 ราย และเสี่ยงสัมผัสอีกจำนวนหลายราย ซึ่งจากการลงพื้นที่ก็พบว่า ชาวบ้านต่างให้ความร่วมมือและเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังไม่พบมีการฝ่าฝืนแต่อย่างใด และล่าสุดในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน ที่ถูกสั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุม ก็ยังไม่พบใครมีอาการผิดปกติเข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ และคณะกรรมการโรคติดต่อ ยังได้เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจสกัดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ทั้ง 3หมู่บ้านใน 2 อำเภอ รวมจำนวน 13 จุด ซึ่งมีการตั้งจุดตรวจเข้มตลอด 24 ชั่วโมง จากการสอบถาม ชาวบ้านบ้านตากอง หมู่ 7 อ.ละหานทราย ก็บอกว่า หลังจากผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ทราบว่าทางราชการจะปิดหมู่บ้านเพื่อกักตัว ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ก็ได้ซื้ออาหารแห้งมากักตุนไว้ และไม่ได้วิตกกังวลอะไรเพราะเข้าใจในสถานการณ์และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ส่วนตัวก็ยอมรับว่ากลัวบ้างเพราะไม่เจอเชื้อโรคนี้มาก่อน แต่ก็พยายามทำตามที่ทางการแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันตนเอง