ภาคเหนือโคม่าหนัก จะอยู่กันยังไง ฝุ่น 2.5 ทะลุเกินกว่า 300 ขณะ 8 จุดติดโซนแดงอันตราย ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ล่าสุดทะยานขึ้นอันดับ 1 เมืองมลพิษสภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก GISTDA เผยภาพดาวเทียม แดงเถือก จนน่าเป็นห่วง หมอมช.เผยไฟป่าไหม้ต่อเนื่องมาหลายวันไม่หยุด จนลามเข้าป่าเบญจพรรณ ระบบนิเวศน์พังแน่ ท่ามกลางโลกโซเชีลระดมภาคปชช.ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์-เสบียงจนท.ดับไฟ ชวนติดแฮชแท็ก ##savechiangmai #เพราะเรามีลมหายใจเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล วันที่ 28 มี.ค.63 เวลา 07.00 น. พบว่ายังคงอยู่ในระดับดีถึงดีมาก ค่าฝุ่น PM 2.5 ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ ขณะที่ภาคเหนือ ยังคงต้องผจญกับฝุ่น PM 2.5 อย่างหนัก โดยคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช้านี้ตรวจพบค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่าง 38 - 342 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐาน 22 พื้นที่ โดยอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีแดง) ถึง 8 จุด สูงสุดที่ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 342 ไมโครกรัมฯ เกินมาตรฐานหลายเท่าตัว ตามด้วย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 226 ไมโครกรัมฯ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 144 ไมโครกรัมฯ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 117 ไมโครกรัมฯ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 113 ไมโครกรัมฯ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 111 ไมโครกรัมฯ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 103 ไมโครกรัมฯ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 98 ไมโครกรัมฯ ค่าฝุ่นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) 14 จุด ได้แก่ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร, ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร, ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ด้าน www.airvisual.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษ โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 28 มี.ค.63 เวลา 07.37 น. พบว่า เมืองเชียงใหม่ ของไทย สภาพอากาศแย่ติดอันดับ 1 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 228 US AQI ทั้งนี้ GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุ “แดง..!! จนน่าเป็นห่วง วันที่ 27 มี.ค. 2563 เวลา 10.19 น. ภาพถ่ายจากดาวเทียมระบบ MODIS ทั้งประเทศ ตรวจพบค่า PM 2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ค่อนข้างมาก แดงเกือบทั้งจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ยังพบเห็นสีแดงสลับกับคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในหลายพื้นที่เกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นเพียงภาคใต้เท่านั้น ที่พบเห็นค่าคุณภาพอากาศปานกลาง (สีเหลือง) สลับกับมีเมฆมาก...” ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “Rungsrit Kanjanavanit” ของ นพ.รังสฤษฎ์ เรืองกาญจนวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ระบุ “ไฟป่า บนดอยสุเทพ ยังมีอีกหลายจุด ลุกไหม้ต่อเนื่องหลายวันแล้ว ดูจากระดับความสูงตำแหน่งที่ไฟไหม้ลุกลาม ไม่ใช่ป่าเต็งรังที่ทนไฟ แต่เป็นป่าเบญจพรรณ และป่าดิบเขา แบบนี้ระบบนิเวศพังพินาศ” นอกจากนี้ ในโลกโซเชียลได้มีการระดมความช่วยเหลือจากภาคประชาชน เพื่อรวบรวมสิ่งของบริจาคเพื่อสนับสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่า ทั้งอุปกรณ์ดับไฟป่า และเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งอาสาสมัครกลุ่มโดรน เพื่อช่วยชี้จุดให้เจ้าหน้าที่ดับไฟทำงานได้ง่ายขึ้น โดยมีการระดมติดแฮชแท็ก #savechiangmai #เพราะเรามีลมหายใจเดียวกัน