แห่ชื่นชมผู้ว่าฯสยาม เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ปีนกระบะ ลุยพ่นยาฆ่าเชื้อ 4 วันรวด​ เผยหวังสร้างความร่วมมือ ปชช.ตื่นตัวสกัดโรคร้าย ให้ความมั่นใจ นทท.ยังไร้ป่วย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม กลายเป็นกระแสข่าวชื่นชม ทางโซเชียล หลังมีสื่อออนไลน์ นำภาพการ ทำงาน ของ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ซึ่งถือเป็นผู้ว่าราชการที่เคยมีชื่อเสียง ตั้งแต่เดินทางมารับ ตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.นครพนม ตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจาก เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้ชื่อ ว่า ดาวรุ่งของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจาก เป็นบุคคลที่มีผลงานในการทำงานโดดเด่น ในกระทรวงมหาดไทย จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม และเป็น ผู้ว่าราชการ จังหวัดหนุ่มหล่อ อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย และโสดอีกด้วย ท่ามกลางกระแสวิกฤติการเกิดโรคระบาดเชื้ออันตราย โควิด 19 ในช่วง ช่วงเดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ ขับเคลื่อน สร้างความร่วมมือทั้ง ภาครัฐ เอกชน ไปจนถึงประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจ ในการ สร้างความร่วมมือ ควบคู่กับ การสนองนโยบายรัฐบาล ในการมอบหมายให้ ภาครัฐ เข้าไป ตรวจสอบ ดูแลคัดกรอง ในพื้นที่ เสี่ยง เพื่อ ควบคุมการแพร่ระบาด ที่สำคัญ ในช่วงการแพร่ระบาด มาตรการควบคุม ป้องกัน จะต้องเข้มข้น และเข้าถึงประชาชน รวมถึงจะต้องเกิดประสิทธิภาพ ได้ผล ทำให้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่ทำงานด้วยความ มุ่งมั่น เน้นการลงพื้นที่ มากกว่าการประชุมมอบนโยบายในห้องประชุม เพื่อให้เกิดประโยชน์ และเข้าถึงประชาชน มากที่สุด ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นภาพข่าว แพร่สะพัดออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความประทับใจให้กับ ประชาชน ในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่พบเห็นพากันแห่ชื่นชม เนื่องจากถือเป็น การทำงานรูปแบบใหม่ของผู้นำระดับจังหวัด ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยเน้นการลงพื้นที่ ปฏิบัติงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ และประชาชน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ นำทีมเฝ้าระวังคัดกรองควบคุมสกัดโควิด 19 ในช่วง 3 -4 วันที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เกิดกระแสความตื่นตัวไปในพื้นที่ รวมถึงประชาชน นักท่องเที่ยว หลังจากนายสยาม ศิริมงคลผวจ.นครพนม ทุ่มเทลงพื้นที่ แต่งตัวเรียบง่าย เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ปิดหน้ากากอนามัย ปีนรถกระบะฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ตระเวนฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึง จุดเสี่ยงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม แบบวันต่อวัน ไม่เว้นกลางวัน กลางคืน จนถึง รอบดึก โดยจะเน้นการกำกับดูแล ทุกจุด เพื่อให้เกิดประสิทธิ์ภาพมากที่สุด และยัง เป็นขวัญกำลังใจที่ดีให้กับ ผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญยังสร้างกระแสเพื่อให้ชาวบ้าน ตระหนัก ตื่นตัว ถึงมาตรการดูแลควบคุม เชื้อโควิด 19 ให้ประชาชน ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว ปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งล่าสุสถานการณ์ ในพื้นที่ ถือว่า สามารถควบคุมได้ ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด โดย นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ระบุว่า การวางแนวทางมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด เชื้อโควิด ในพื้นที่ จ.นครพนม สำคัญที่สุดไม่ได้มาจากส่วนหนึ่งส่วนใด จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด คือการสร้างความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ในการ ตระหนักถึงอันตราย ที่จะเกิดขึ้น รวมถึง การดูแลเอาใจใส่ ช่วยกันดูแลสอดส่อง ทุกขึ้นตอน ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งทุกคนจะต้องไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน เพราะในยามวิกฤติสิ่งสำคัญคือความร่วมมือ ร่วมใจ ไปจนถึงการ ทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ จะต้องเน้นการลงพื้นที่ ตรวจสอบคัดกรอง เข้าถึงประชาชนเป็นหลัก เมื่อเกิดปัญหา หรือมีการสุ่มเสี่ยง จะต้องควบคุมติดตามให้เร็วที่สุด เพราะตนเชื่อมั่นว่า หากทุกคนร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติโรคร้ายแค่ไหน ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ หากเกิดความร่วมมือ ระหว่างรัฐ กับประชาชน ผู้ว่าฯสยาม กล่าวอีกว่า ตลอดเวลาช่วงเดือนที่ผ่านมา ตนได้ มอบหมาย ประสานงานกับทุกภาคส่วน ทั้งมอบนโยบาย ลงพื้นที่ ไปจนถึงการเข้าไปรับทราบปัญหาในพื้นที่ ตลอดจนขานรับนโยบายรัฐบาล ในการเข้มงวด ทั้งปิดจุดผ่อนปรน จุดผ่านชายแดน ที่เสี่ยง เหลือเพียงช่องทางด่านพรมแดนถาวร ไปจนถึง ออกมาตรการ ควบคุม ร้านค้า ร้านอาหาร ร้าน สรรพสินค้า ที่มีความเสี่ยง เน้นเพื่อการอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ไม่ให้กระทบประชาชน ไปจนถึงการคัดกรองบุคคลเข้าออก ทั้ง 12 อำเภอ ภายใต้ความร่วมมือ ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ในพื้นที่ ไปจนถึง การเฝ้าระวังติดตาม บุคคลที่เดินทางกลับจาก กทม.ต่อเนื่อง ทำให้ จ.นครพนม ถือว่า ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ระดับหนึ่ง และยังไม่พบผู้ติดเชื้อ มีเพียงกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องเฝ้าระวัง แต่ยังคงต้องยกระดับการเข้มงวดมากขึ้น แต่ต้องประเมินถึงผลกระทบ ควบคู่ไปด้วย ให้เกิดความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่า หากทุกภาคส่วน ร่วมกันทำงานจริงจัง ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึง รับผิดชอบต่อสังคม จ.นครพนม จะเป็นเมืองที่ปลอดภัยจากโรคร้าย ส่วนการลงพื้นที่ ของตนเอง ที่เน้นการปฏิบัติ ทำงานกับเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องการ สร้างภาพ แต่มุ่งสร้างความร่วมมือ เข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ต้องเหน็ดเหนื่อย อย่างน้อยในฐานะที่เป็นพ่อเมือง ไม่ได้สำคัญที่ตำแหน่ง อยากช่วยเหลือให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานมากที่สุด เมื่อเกิดวิกฤติทุกฝ่ายต้องช่วยกัน สำคัญที่สุดการทำงานด้วยตัวเอง จะได้เข้าถึงปัญหา เพื่อวางแนวทาง ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และสร้างความตระหนักให้ประชาชน ได้ช่วยกันในการฝ่าวิกฤติโรคร้าย ตื่นตัวหันมาร่วมกันควบคุมดูแลป้องกัน สุดท้ายประโยชน์จะเกิดต่อประชาชน นักท่องเที่ยว ให้เมืองนครพนมได้ขึ้นชื่อ เรื่องมาตรฐานการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยทุกด้าน ศูนย์ข่าวอีสานบน นครพนม