รมว.ยุติธรรม สั่งทุกเรือนจำสร้าง ห้องกักโรค-ห้องน้ำ เพิ่มให้เพียงพอต่อการกักนักโทษก่อนปล่อยสู่แดนขังรวม พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ทำงานหนัก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงฯร่วม ประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เร้น กับ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ หัวหน้าเรือนจำทั่วประเทศ ถึงแนวทางการป้องกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ระบาดในเรือนจำ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานแล้วผู้ต้องขังที่ติดเชื้อแล้วซึ่งได้รับเชื้อจากการออกภายนอกเรือนจำ เช่นในกรณีที่ราชบุรี เพราะออกมารักษาตัวโรงพยาบาลและติดเชื้อ แต่เมื่อนำกลับเข้ามาเรือนจำก็มีการแยกไว้ในห้องกักโรค เวลานี้ได้ส่งผู้ต้องขังรายดังกล่าว ไปรักษายังโรงพยาบาลแล้ว “เวลานี้เข้าใจเจ้าหน้าที่นั้นเหน็ดเหนื่อยผมขอให้กำลังใจทุกคน ในการดูแลผู้ต้องขังให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ซึ่งไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะต้องต่อสู้อีกนานหรือไม่กับโรคดังกล่าว เราต้องมีความพร้อม เราต้องรักษาสถานการณ์ให้ในเรือนจำไม่มีผู้รับเชื้อให้ได้ เวลานี้ 10 หัวหน้าเขตเรือนจำต้องทำความเข้าใจกับเรือนจำรับผิดชอบว่า คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า” รมว.ยุติธรรมกล่าว นายสมศักดิ์ ยังขยายในเนื้องานต่างๆอีกว่า คนในห้ามออก คือ ห้ามไปฝึกงาน ห้ามทำงาน นอกสถานที่ ลดจำนวนนักโทษออกไปศาล หรือ การออกไปพบแพทย์ก็ขอให้เป็นกรณีจำเป็นเท่านั้น ในส่วนของ คนนอกก็ห้ามเข้า งดเยี่ยมญาติ งดการสอนจากอาจารย์ภายนอก ต้องคัดกรองคนเข้าเรือนจำทุกรายและกักโรค เข้าใจว่าปฏิบัติยากเพราะผู้ต้องขังเข้าใหม่มีแทบทุกวัน ดังนั้นเมื่อเข้าใหม่ ต้องกัก 14 วัน ตรวจให้ละเอียด รวมถึงผู้ต้องขังกลับจากศาล หรือ โรงพยาบาลต้องกัก 14 วัน ห้ามยกเว้นเป็นอันขาด นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า เวลานี้ ทุกเรือนจำเราต้องมีห้องแยกกักให้ชัดเจน และต้องมีให้เพียงพอ ต้องมีหลายเลเวล เช่นกลุ่มนี้อยู่กี่วันเมื่อครบ14 วันไม่พบเชื้อก็ปล่อยไปตามแดน แต่หาก คนออกไปศาล ไปโรงพยาบาล แม้จะถูกกักตัวไปแล้ว 13 วัน ก็ต้องมากักนับ 1 ใหม่ ดังนั้นห้องกักโรคต้องมีมากตามจำนวนนักโทษที่เข้าใหม่ด้วย หากไม่พอก็กั้นห้องเพิ่ม ห้องน้ำก็ต้องมีให้เพียงพอ อากาศต้องถ่ายเทให้ดี หมั่นทำความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ เวลานี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำดีอยู่แล้ว แต่เรายังต้องร่วมแรงร่วมใจกันอีก ไม่ให้เชื้อโควิด -19 ไปแพร่กระจายสู่นักโทษและตนเชื่อมั่นว่าเราทำได้ อย่างไรก็ตาม ผอ.เรือนจำทุกคนได้ยืนยันกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่ามีความพร้อมในเรื่องของห้องกักตัว รวมถึงห้องน้ำที่ต้องทำเพิ่มเติมแล้ว และยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาในการระบาดในเรือนจำเพราะมีการสอดส่องนักโทษกันตลอดเวลา นอกจากนี้ หากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น เรือนจำต่างๆยังได้เตรียมความพร้อมถึงขั้นการทำโรงพยาบาลสนามอีกด้วย