พื้นที่รอบด้านจังหวัดพิจิตรติดเชื้อโควิด19 กันทั่วหน้า สสจ.พิจิตร จับมือ ปกครอง – ตำรวจ รวมถึงตั้งคณะทำงานตั้งด่านทั่วทุกมุมเมืองที่เป็นทางเข้าออกสู่เมืองชาละวัน มุ่งหวังรักษาพื้นที่ให้เป็นที่ปลอดเชื้อโควิด19 ปลอดภัย รณรงค์มาตรการเข้ม อยู่บ้านต้านโควิด สวมหน้ากากอนามัยให้เป็นประจำ วันที่ 26 มี.ค. 63 เมื่อเวลา 23.45 น. นายธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร , นางสาวปิยะฉัตร ไพรชนม์ นายอำเภอสากเหล็ก , พ.ต.อ.อารักษ์ สมถวิล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสาก พร้อมด้วย นายอธิวัฒน์ วงศ์ตันติเจริญ “หมอบอย” สาธารณสุขอำเภอเมืองพิจิตร และ นายวีระ ดีมั่น สาธารณสุขอำเภอสากเหล็ก รวมถึงคณะทำงานที่จังหวัดพิจิตรตั้งขึ้นให้ดำเนินการรับผิดชอบพื้นที่ตรวจเยี่ยมและร่วมแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดพิจิตร ที่ขณะนี้สามารถรักษาพื้นที่ให้เป็นที่ปลอดเชื้อโรคไวรัสโควิด 19 ท่ามกลางความกดดันเนื่องจากจังหวัดรอบข้างต่างอยู่ในสถานการณ์มีผู้ป่วย แต่จังหวัดพิจิตรวันนี้ สสจ.พิจิตร ยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด สำหรับภารกิจในวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต.สากเหล็ก และผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานด้วยสาธารณสุขได้ร่วมกับ ตำรวจ – ฝ่ายปกครอง และ นายเจษฎาพร วิริยะอารีธรรม กำนันตำบลสากเหล็ก ร่วมกันตั้งด่านตรวจคัดกรองที่บริเวณหน้าเทศบาลตำบลสากเหล็ก ถนนทางหลวงหมายเลข 11 เขาทราย - สากเหล็ก – วังทอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก หรือเป็นประตูเมืองด้านทิศตะวันออกที่เข้าสู่เมืองพิจิตร ซึ่ง นายธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า พิจิตรขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื่อโควิด19 แต่มีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง 147 ราย และยังอยู่ระยะเฝ้าระวัง 56 ราย พ้นระยะเฝ้าระวังไปแล้ว 91 ราย มีผู้ที่เข้าเกณฑ์ส่งตรวจหาเชื้อโควิด 19 จำนวน 10 ราย มีผลเป็นลบ ในส่วนของการปฏิบัติการเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้เป็นการตั้งด่านตรวจ โดยการใช้อินฟาเรด เทอร์โทโมมิเตอร์ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจวัดไข้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าจังหวัดพิจิตรเพื่อคัดกรอง ถ้ามีไข้ก็จะทำการทำประวัติ ควบคุม กำกับ ซักประวัติ และดูที่มาว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่แพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19 หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้จังหวัดพิจิตรปลอดโรค ปลอดภัย ส่วนการตั้งด่านครั้งนี้ สสจ.พิจิตร ให้ข้อมูลสยบข่าวลือที่ว่า หากไม่สวมหน้ากากอนามัย จะถูกจับ ถูกปรับ นั้น ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะไม่มีข้อกฎหมายกำหนด ถ้าพบเจอก็จะเป็นเพียงการให้คำแนะนำตามหลักสุขอนามัยเท่านั้น นั่นคือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด ทำให้เป็นประจำและควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ในกลุ่มที่มีคนหมู่มาก ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามประชาชนผู้ที่ใช้รถ ใช้ถนน ที่ถูกด่านตรวจอินฟาเรด เทอร์โมมิเตอร์ ตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายเพื่อหาเชื้อไข้หวัดต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าขอสนับสนุนและเห็นด้วย และไม่ถือว่าเป็นการรบกวนหรือเสียเวลาในการเดินทางแต่อย่างใด