ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และขนส่ง ตั้งจุดคัดกรองคนเข้าพื้นที่ 7 จุด บริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอเข้าสู่จังหวัด ตรวจคัดกรองโควิด-19 วันที่ 26 มี.ค.63 พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการด่วนไปยังผู้กำกับการ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร ในสังกัด โดยอ้างถึง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 มีนาคม 2563 เรื่องสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อให้การป้องกันและคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเช้าไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด จึงจัดตั้งด่านตรวจป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยกำหนดการปฏิบัติไว้ ดังนี้ ให้ สภ.หนองกี่, โนนดินแดง, ประโคนชัย, ลำปลายมาศ, กระสัง, สตึก และ สภ.บ้านใหม่ไยพจน์ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ดำเนินการตั้งด่านตรวจป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ ณ จุดกำหนด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และขนส่ง ประจำพื้นที่ โดยให้เริ่มปฏิบัติในวันที่ 26 มีนาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป โดย สถานีตำรวจภูธรในสังกัด จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 ชุด ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ จัดชุดปฏิบัติการร่วมปฏิบัติ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จัดชุดปฏิบัติการเตรียมพร้อม ประจำ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจท่องเที่ยวบุรีรัมย์ จัดชุดปฏิบัติการร่วมปฏิบัติด้วย ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีการสนธิกำลังกัน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข ปลัดอำเภอ สมาชิก อส.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ.โดยผลการปฎิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้รับความร่วมมือจากผู้เดินทางเป็นอย่างดี เพื่อคัดกรองสังเกตอาการผู้เดินทางเข้าพื้นที่ ตามมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ การตรวจของเจ้าหน้าที่จะเน้นตรวจคัดกรองรถที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะรถที่มีผู้สูงอายุเกินกว่า 70 ปี และเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ เมื่อรถมาถึงจุดตรวจก็มีการซักประวัติการเดินทาง มีการตรวจวัดอุณหภูมิ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันไวรัสโควิด-19 และหากผลตรวจพบว่าประชาชนมีอาการเป็นไข้สูง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะซักประวัติว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ หากพบว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะส่งไปโรงพยาบาลทันที