“สกสว.เดินหน้ามาตรการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) หนุนบุคลากรทำงานจากบ้าน(Work From Home) ในภาวะวิกฤติโควิด-19 พร้อมดำเนินงานตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากสถานการความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า รัฐบาลจะมีประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อแก้ไขการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 มี.ค.63 ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการด้านการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ เป็นไปอย่างมีศักยภาพแม้เกิดวิกฤติและสอดคล้องกับพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สกสว.)จึงได้ประกาศ มาตรการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เรื่อง แผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan : BCP) และการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกสว. เปิดเผยข้อมูลว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามประกาศจากภาครัฐเรื่องการยกระดับมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค สกสว.จึงได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัส ดังกล่าว รวมถึงแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan : BCP) เพื่อให้การดำเนินงานของ สกสว. เป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก โดย สกสว.ได้ปิดทำการในวันที่ 24 มี.ค.63 เพื่อซ้อมแผน BCP และการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) โดยจะเปิดทำการตามปกติในวันที่ 25 มี.ค.63 อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ที่มีความพลวัต หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือ สถานการณ์ใดๆ สกสว.จะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป โดยประชาคมวิจัยยังคงสามารถประสานงาน หรือติดต่อประสานงานได้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆได้คงเดิม และขอให้ทุกท่านติดตามข้อมูลสถานการณ์ดังกล่าวผ่านทางช่องทางศูนย์ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและการแถลงข่าวของรัฐบาล ตามที่นายกรัฐมนตรีระบุ เพื่อให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤติ มีผู้ป่วยและสูญเสียในสถานการณ์กล่าวให้น้อยสุดเท่าที่จะเป็นได้