ถุงซิปล็อก 3 ชั้น ฉีดยาฆ่าเชื้อทุกชั้น เจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันมาตรฐานรัดกุม ทั้งฌาปนกิจด้วยความร้อนสูง 800-1,000 องศาเซลเซียส ขณะแค่ 60 องศาเซลเซียสเชื้อก็ตายแล้ว นพ.อภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวถึงกรณีการจัดการกับศพของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามมาตรฐานของสถาบันบำราศนราดูรว่า กรณีมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผู้ป่วยจำนวนมากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และขณะนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต เมื่อเข้าสู่การจัดการศพ จึงต้องขอชี้แจงว่าสถาบันบำราศฯ ได้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปแล้ว111 ราย สะสมรวม 117 ราย เสียชีวิต 3 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่74ราย แพทย์ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดสู้กับโรคของผู้ป่วย โดยใช้มาตรการทั้งที่มีและไม่มีในประเทศไทย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง3รายได้รับยาตั้งแต่แรกที่เข้ารับการรักษา อาทิ ยาต้านไวรัสเอดส์ ,ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ในจีนและญี่ปุ่นการรักษาด้วยยา มีการใช้วิธี รักษาแบบประดับประคอง และรักษาเฉพาะโดยใช้วิธีเวชบำบัดวิกฤตมีคณะแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆเป็นที่ปรึกษาอยู่ตลอด ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของผู้ป่วยไว้ได้ แต่ขอย้ำว่าจะดำเนินการในส่วนของการจัดการศพให้สมศักดิ์ศรีของคนไทย ซึ่งได้มีการฝึกซ้อมสภาวะการจัดการศพโรคติดเชื้อเป็นระยะๆ การจัดการประเด็นศพจากผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย จะมีถุงซิปล็อกใส่ร่างผู้เสียชีวิต3ถุง มีแอลกอฮอล์ผ้ารอง และผู้ที่เข้าไปดูแลจัดการศพจะต้องใส่ชุดป้องกันหรือชุด PEE มาตรฐาน แต่ยืนยันว่าได้มีการรักษาเชื้อไปหมด ร่างผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุ มีผ้าชุบแอลกอฮอล์ 70% และสเปรย์แอลกอฮอล์ตามร่างกาย เช่น ปาก หูจมูก ซึ่งเป็นจุดสำคัญของร่าง และฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อรอบทั้งด้านหน้าและหลังทุกซอกทุกมุมของร่างผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นจะนำร่างใส่ถุงซิปล็อก 3 ชั้น โดยระหว่างชั้นจะมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั้น ส่วนคนที่นำร่างผู้เสียชีวิตใส่ถุงซิปล็อกต้องเปลี่ยนชุดเปลี่ยนถุงมือทุกครั้งรวมเป็น 3 ครั้ง ยืนยันว่าแต่ละชั้นมีขั้นตอน ตามกระบวนการป้องกันการติดเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจผู้ดูแลร่างผู้เสียชีวิตก็จะไม่มีโอกาสมีเชื้อโรคได้เลย การเคลื่อนย้ายร่างไปสู่โลงศพหรือเข้าสู่ที่ฌาปนกิจศพที่วัดหรือสถานที่ทำพิธีตามศาสนาต่างๆ โดยจะไม่มีการเปิดถุงซิปล็อกเด็ดขาด ซึ่งก่อนบรรจุร่างผู้เสียชีวิตใส่ถุงซิป ญาติต้องมาตรวจสอบก่อนโดยสวมชุด PEE ป้องกันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่ากังวลว่ามีการแพร่เชื้อ เพราะได้ทำตามกระบวนการมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับต่างประเทศ ซึ่งโดยปกติเชื้อจะถูกทำลายด้วยความร้อน 60 องศาเซลเซียสเชื้อก็ตายแล้วและการฌาปนกิจศพ โดยเตาเผาศพนั้น มีความร้อนมากกว่า 800-1,000 องศาเซลเซียส และเวลาฌาปนกิจศพจะเผาพร้อมถุง 3ชั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าเชื้อหรือซากจะหลุดรอดซึ่งแทบจะไม่มี จึงขอให้ทุกคนมั่นใจ