เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 อายุ 70 เป็นวัณโรค, 79 ติดเชื้อจากสนามมวย อายุ 45 เป็นเบาหวาน ยอดตายรวมเป็น 4 ขณะพบผู้ป่วยใหม่อีก 106 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ติดจากผู้ป่วยก่อนหน้า 25 ราย ทั้งติดจากสนามมวย สถานบันเทิง สัมผัสผู้ป่วยเดิม รายใหม่อีก 34 พบมีบุคลากรการแพทย์ 4 ราย ติดจากคนไข้ไม่แจ้งความเสี่ยงแต่อาการไม่น่าห่วง และอีก 47 ยังรอผลตรวจเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 25 มี.ค.63 เวลา 10.00 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 106 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 827 ราย ในจำนวนนี้ผู้ป่วยกลับบ้านได้จำนวน ​5 ราย รวมกลับบ้านสะสม 57 ราย มีผู้ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 663 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมเสียชีวิต 4 ราย และพบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ เป็นผู้ป่วยใหม่อีก 4 ราย สำหรับผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือ ผู้ป่วยวัณโรค 1 ราย อายุ 70 ปี ผู้ป่วยจากสนามมวยอายุ 79 ปี อาการหนักตั้งแต่แรกรับเข้ารักษาตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และอีกรายเป็นผู้ป่วยชาวไทย อายุ 45 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน โรคอ้วน จากรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ แบ่งปัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1กลุ่มมีประวัติเกี่ยวพันกับกลุ่มผู้ป่วยเดิมจำนวน 25 ราย แบ่งเป็นสนามมวย 5 ราย มีสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน จาก กทม. นครปฐม สมุทรสาคร อุบลราชธานี ,สถานบันเทิง 6 ราย ทองหล่อ อาร์ซีเอ นานา มีทั้งนักท่องเที่ยวและพนักงานเสิร์ฟ, สัมผัสผู้ป่วยเดิม 12 ราย มีเซียนมวย พนักงานขายเสื้อผ้า ดื่มสุรา กินข้าวด้วยกัน ,ผู้เข้าร่วมพิธีทางศาสนา อีก 2 ราย กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ จำนวน 20 ราย เป็นชาวต่างชาติ 12 ราย ชาวไทย 8 ราย เป็นนักศึกษา พนักงานบนเครื่องบิน เดินทางกลับจากปอยเปต ,อาศัยในสถานที่แออัดอีก 10 ราย เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ รปภ. พนักงานรับรถ แท็กซี่ พนักงานในสถานบันเทิง ,บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 4 ราย โดยเป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ ภูเก็ต ยะลา นครปฐม บุรีรัมย์ ซึ่งสาเหตุเกิดจากผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยงมาก่อน ทำให้ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ทำให้ต้องแอดมิดใน รพ. แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง และกลุ่มที่ 3 ยืนยันพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 47 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำข้อมูลสถานที่ชุมนุมชนที่มีประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตนเองใน 25 แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี,ขอนแก่น,กรุงเทพมหานคร,สงขลา, นครราชสีมา,นนทบุรี และสุรินทร์ โดยผู้ที่อยู่ในสถานที่ และช่วงเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด,ผู้ว่าราชการจังหวัด,ผอ.โรงพยาบาล,นายอำเภอ,สาธารณสุขอำเภอ,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน อสม.,ผู้นำชุมชนทันที และให้กักกันตนเองและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันอย่างเคร่งครัด หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลประกาศสถานที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค และเพจ“ไทยรู้ สู้โควิด”ขอย้ำเตือนประชาชน ช่วยกันรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 -2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด แยกสำรับอาหารไม่ใช้ช้อน ถ้วย ชาม แก้วน้ำร่วมกัน หากมีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัยไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปในวงกว้าง ลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ให้มีน้อยที่สุด