เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา แถลงว่า หลังกทม.ออกคำสั่งปิดพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ทางองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านเด็ก และสังคม ได้สำรวจว่าสภาวะแบบนี้จะเกิดความเดือดร้อนต่อคนในระดับรากหญ้า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง ได้แก่ กลุ่มผู้ใหญ่ที่เป็นคนเจ็บป่วย คนพิการ และคนที่ไม่ได้อยู่บ้าน ประมาณ 800 – 1,000 คน 2.กลุ่มเด็ก และเยาวชน ที่เร่ร่อนทั้งไทยและต่างชาติ ประมาณ 500 คน และ3.กลุ่มที่อยู่ในชุมชนแออัดขนาดเล็ก ต่ำกว่า 25 ครัวเรือน ประมาณ 2,500 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้นประเมินว่ามีผู้ได้รับผลกระทบที่จะไม่มีเครื่องอุปโภค บริโภค ในภาวะวิกฤตประมาณ 8,000 – 10,000 คน ทางกมธ.ฯ จึงร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ครูข้างถนน กรุงเทพมหานคร และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดเตรียมชุดอาหาร น้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย จำนวน 3,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งตอนนี้จัดเตรียมได้แล้ว 1,000 ชุด และจะดำเนินการแจกจ่ายทันทีโดยครูข้างถนนจะกระจายลงพื้นที่ต่างๆเพื่อส่งมอบ นายวัลลภ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่จำเป็นต้องมาช่วยบริจาค แต่สามารถช่วยกันดูแลช่วยเหลือคนรอบๆชุมชนได้ หากมีน้ำดื่มอาหารก็ช่วยกันแบ่งปันให้ผู้ที่ขาดแคลน