ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนาของมหาวิทยาลัยแพทย์จอห์น ฮอปกินส์ รายงานยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 303,180 ราย แล้วในเวลา 05.50 น. วันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. 2563 เวลาประเทศไทย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 12,950 คน โดยสถิติผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 21 มี.ค. จีนยังนำเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 81,304 ราย แต่พบผู้ป่วยใหม่เพียง 41 ราย ด้าน อิตาลี ยอดล่าสุดอยู่ที่ 53,578 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ที่พบ 6,557 รายขณะที่สเปนที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 4,000 ราย จนยอดสะสมในประเทศพุ่งไปถึง 25,374 ราย ด้านสถิติผู้เสียชีวิต อันดับ 1 คือ อิตาลี 4,825 คน โดยพบสานนี้ (21 มี.ค.) ที่ผ่านมาเพียงวันเดียวถึง 793 คน ตามด้วยจีนที่ 3,259 คน โดยเสียชีวิตเพิ่มในวันเสาร์ 7 คน และอิหร่านที่ 1,556 คน ในจำนวนนี้ 123 คน เสียชีวิตในวันเสาร์ ส่วนประเทศที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงมีหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากเมื่อวันศุกร์กว่า 4,000 ราย ไปอยู่ที่ 24,142 ราย มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ในจำนวนนี้อยู่ในรัฐนิวยอร์กถึง 11,645 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 คน รวมเป็น 288 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐวอชิงตันทางตะวันตก (83 ราย) ขณะที่เยอรมนีก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2,300 ราย จนยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 22,213 ราย ตามมาเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ส่วนฝรั่งเศสนอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเกือบ 2,000 ราย เป็น 14,459 รายแล้ว ผู้เสียชีวิตยังเพิ่มอย่างก้าวกระโดดอีก 112 คน เป็นทั้งหมด 562 คน สวิตเซอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรก็เป็นอีก 2 ชาติยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 1,000 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อ 6,665 ราย และ 5,018 รายตามลำดับ แต่สหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 56 คนเป็น 233 ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ตายเพิ่ม 19 คนเป็น 75 คน ที่น่าสนใจ ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนาของมหาวิทยาลัยแพทย์จอห์น ฮอปกินส์ ยังระบุว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 300,000 รายทั่วโลก มีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 91,676 ราย โดยเกือบ 59,000 รายอยู่ที่มณฑลหูเป่ยของจีน อีก 7,635 รายอยู่ที่อิหร่าน และ 6,072 รายอยู่ที่อิตาลี ส่วนสหรัฐฯ มีรายงานรักษาผู้ติดเชื้อหาย 171 รายแล้ว