นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ข้อความในเพตเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า... ประเทศไทยยังมีโอกาสหลีกเลี่ยงหายนะได้ ถ้า.....(ตอนที่ 1) . จากการรายงานในวันที่ 21 มี.ค.63 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 89 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 411 คน ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆที่กำลังมีการแพร่ระบาดรุนแรง ก็อาจจะรู้สึกได้ว่าตัวเลขยังไม่สูง แต่ถ้าดูจากตัวเลขของไทยเองที่ผ่านมาตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อคนแรก จะพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของไทยเราอยู่ในระดับต่ำและเพิ่มอย่างช้าๆอยู่นาน จนกระทั่งไม่กี่วันนี้จำนวนตัวเลขจึงได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว . ถ้าดูตัวเลขจากวันที่ 17 มีค.เป็นต้นมาจะพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 20 % หรือกว่านั้น ของวันที่ 21 มีค.เพิ่มจากวันที่ 20 มีค.ถึง 27.64 % . ด้วยอัตราเร็วแบบนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเป็นสองเท่าในเวลาประมาณ 3 วัน ถ้าเร็วกว่านี้ก็จะเป็นสองเท่าในเวลาน้อยกว่านั้น คำนวณคร่าวๆ ถึงวันที่ 25 อาจมีผู้ติดเชื้อประมาณ 1,000 คน . มีผู้คำนวณตัวเลขน่าตกใจกว่าที่ผมลองคำนวณนี้อีกเยอะเลยครับ . คุณหมอบางท่านคำนวณว่าตัวเลขผู้ป่วยอาจสูงมากคือนับจากวันที่ 19 มีนาคมไปอีก 10 วันจะเป็น 5,000 คน . ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ประมาณ 400 คน ในวันที่ 20 มีค.นี้เองก็มีการเปิดเผยข้อมูลว่าการตรวจทางห้องปฏิบัติการขาดแคลนน้ำยาและเครื่องมือ รวมทั้งของสภากาชาดไทยด้วย ห้องปฏิบัติการบางแห่งประกาศปิดรับตัวอย่างแล้ว การตรวจทำได้อย่างจำกัด สภาพโรงพยาบาลห้องไม่พอ ล่าสุดร.พ.รามาธิบดีประกาศปิดรับบริการตรวจโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 20 มีค.เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป . ด้วยข้อมูลอย่างนี้ ใครๆก็ต้องวิตกกังวลกันทั้งนั้น ว่าสถานการณ์จะแย่ลงแค่ไหน เราจะทำกันอย่างไร . รัฐบาลมักพูดอยู่เสมอเหมือนท่องคาถาว่า “อย่าตื่นตระหนก” ผมก็เห็นด้วยว่าต้องช่วยกันทำให้ไม่เกิดการตื่นตระหนก แต่การจะทำให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนกนั้นไม่มีอะไรดีกว่าการมีมาตราที่ดีที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้และอธิบายให้เห็นว่ามาตรการที่ดีนั้นคืออย่างไร ประชาชนจะให้ความร่วมมือได้อย่างไร ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อได้รับผลกระทบจากมาตรการจะได้รับการดูแลอย่างไร . ผมอยากเชิญชวนให้ทุกท่านตั้งหลักตั้งสติกันก่อน มาช่วยกันคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราจะทำยังไง . ผมยังคิดว่าถึงแม้สถานการณ์จะแย่ลงอย่างรวดเร็วและกำลังจะแย่ลงไปอีก เราก็ยังสามารถหาทางรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ . แต่สำคัญรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจครับ หารือกันให้ดีแล้วตัดสินใจให้เด็ดขาด กำหนดมาตรการให้ชัดเจนแล้ว ถ้าร่วมมือกันทุกฝ่ายทุกคน เรายังพอมีทางหลีกเลี่ยงความเสียหายใหญ่ครั้งนี้ได้ ถ้าไม่ตัดสินใจ ยังคงทำกันไปอย่างที่ทำอยู่ จะเสียหายอีกมากอย่างแน่นอน (ยังมีต่อ)