หลังจากเกิดพายฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก ส่งผลให้บ้านเรือนเสียหายในหลายอำเภอจำนวน 242 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจให้ความช่วยยเหลือ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในหลายอำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหายจากพายุฤดูร้อนกันจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางระกำ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 3 ตำบล ได้แก่ ต.บึงกอก ต.พันเสา และ ต.ปลักแรด มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน
นางชม้อย ศรีเหรา อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 2 บ้านนปรือกระเทียม ต.บึงกอก อ.บางระกำ หนึ่งในผลได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนจนหลังคาบ้านเปิดเสียหายไปครึ่งหลัง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนและลมแรง มาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น สุดท้ายหลังคาบ้านเปิดปลิวไปอยู่หลังบ้านจนกระทั่งตนและครอบครัวต้องหลบฝนไปอยู่อีกฝั่งของตัวบ้าน รอจนฝนหยุดจึงได้เก็บข้าวของไว้ที่ปลอดภัย และรอจนกระทั่งรุ่งเช้าจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านมาทำการช่วยเหลืออีกครั้ง
ขณะที่ลมพายุฝนยังได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ อำเภอชาติตระการ มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 37 หลังคาเรือนอำเภอพรหมพิราม มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 2 หลังคาเรือน และอำเภอนครไทย มีบ้านเรือนเสียหายอีกจำนวน จำนวน 2 หลังคาเรือน เบื้องต้นนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้นำท้องที่ แต่ละพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหายอีกครั้ง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นการเบื้องต้น.
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในหลายอำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหายจากพายุฤดูร้อนกันจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางระกำ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 3 ตำบล ได้แก่ ต.บึงกอก ต.พันเสา และ ต.ปลักแรด มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน
นางชม้อย ศรีเหรา อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 2 บ้านนปรือกระเทียม ต.บึงกอก อ.บางระกำ หนึ่งในผลได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนจนหลังคาบ้านเปิดเสียหายไปครึ่งหลัง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนและลมแรง มาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น สุดท้ายหลังคาบ้านเปิดปลิวไปอยู่หลังบ้านจนกระทั่งตนและครอบครัวต้องหลบฝนไปอยู่อีกฝั่งของตัวบ้าน รอจนฝนหยุดจึงได้เก็บข้าวของไว้ที่ปลอดภัย และรอจนกระทั่งรุ่งเช้าจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านมาทำการช่วยเหลืออีกครั้ง
ขณะที่ลมพายุฝนยังได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ อำเภอชาติตระการ มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 37 หลังคาเรือนอำเภอพรหมพิราม มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 2 หลังคาเรือน และอำเภอนครไทย มีบ้านเรือนเสียหายอีกจำนวน จำนวน 2 หลังคาเรือน เบื้องต้นนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้นำท้องที่ แต่ละพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหายอีกครั้ง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นการเบื้องต้น.