หลังการแพร่ระบาดจากสนามมวยอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นวงกว้างจากกทม.ไป 16 จังหวัด ขณะยังมีอีกหลายพันคนที่มาดูมวยวันนั้นไม่รู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ยังคงใช้ชีวิตปกติและเดินทาง คาดอีก 10 วันตัวเลขติดเชื้อเพิ่มเป็นหลักพันแน่ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทยได้โพสต์ผ่านเพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุ “นับถอยหลังไปวันที่ 6 มีนาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพียง 1 ราย และผู้ป่วยสะสม 48 ราย หลังจากที่มี Super spreader หนึ่งคนแพร่เชื้อโควิด-19 ให้คนจำนวนมากที่มาดูรายการมวยนัดใหญ่ศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกียรติเพชรวันที่ 6 มี.ค.ที่สนามมวยลุมพินี ถึงวันนี้ 20 มี.ค. ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 ราย และผู้ป่วยสะสม 322 ราย ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.เป็นต้นมา มีรายงานผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับสนามมวย 72 ราย มีคนติดเชื้อตั้งแต่ผู้จัด เจ้าของค่าย เซียนมวย พิธีกร เจ้าหน้าที่ทำงานในสนามมวย และผู้ชม คนเหล่านี้ส่วนหนึ่งได้แพร่เชื้อต่อให้กับคนใกล้ชิด คนในครอบครัวแล้วเช่นคุณแมทธิว ดีน บางคนเป็นนักพนันได้กระจายเชื้อต่อให้กับคนที่เล่นพนัน ชนไก่ กัดปลา ชนโค แข่งม้า และสนามมวยอื่นๆทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด บางคนเดินทางกลับภูมิลำเนาของตัวเอง แพร่เชื้อให้คนในจังหวัดต่างๆ การแพร่กระจายเกิดขึ้นเป็นวงกว้างจาก กทม.ไป 16 จังหวัด นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง ลพบุรี สุโขทัย นครสวรรค์ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช พัทลุง หลังจากที่ทราบว่ามีการแพร่ระบาดจากสนามมวย รัฐบาลงดออกใบอนุญาตการจัดให้มีการเล่นการพนัน ชนไก่ กัดปลา ชกมวย แข่งม้า ชนโค ลานแข่งนก ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ต้องขอบคุณ “สกล มวยตู้” เซียนมวยชื่อดัง และแมทธิว ดีน พิธีกรและนักแสดงชื่อดังที่ประกาศตัวเองวันที่ 13 มี.ค.ว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้สังคมไทยตื่นตัว คนที่ไปดูมวยวันนั้นกลุ่มหนึ่งไปขอตรวจที่โรงพยาบาลต่างๆว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่ แต่ก็มีคนอีกหลายพันคนที่มาสนามมวยวันนั้นไม่ทราบว่าตัวเองมีความเสี่ยงสูง ไม่ได้กักตัวเอง 14 วัน มีกิจกรรมกับผู้อื่น เดินทางไปสถานที่ต่างๆ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ถึงวันนี้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าใครเป็น Super spreader ผู้แพร่เชื้อในสนามมวย อีก 10 วันข้างหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 คงเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันอย่างแน่นอน”