ตำรวจ ปส.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตชด.215 สืบภาค 3 กอ.รมน.และฝ่ายปกครอง จับกุมแก๊งขนลำเลียงยานรกจากริมฝั่งโขงส่งลูกค้า ตามออเดอร์ชาวลาว ได้ผู้ต้องหาชาวมุกดาหาร 5 ราย ของกลางยาบ้าร่วม 4หมื่นเม็ด ตามยึดทรัพย์รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน และทองคำรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 พ.ต.ท.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สารวัตรหัวหน้า ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) , ร.ต.อ.สุวัฒน์ นามมงคล สว.กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 ,ร.ต.อ.วินัย แสงอรุณ หัวหน้าชุดปฎิบัติการข่าว(ชปข.)ร้อย ตชด.215 พร้อมกำลังตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 , ชปข.ร้อย ตชด.215 , ทหาร สำนักการข่าว กอ.รมน. และฝ่ายปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ จับกุม นายพงศกร หรือเจม แสนจันทร์ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร กับ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง ชัยรักษ์ อายุ 28 ปี ชาว อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร (สองสามีภรรยา) , นายประโยธร หรือก้าน ซาผู อายุ 27 ปี ชาว อ.นาตาล จ.มุกดาหาร, นายอภิชาต หรือท๊อป โคตสะขึง อายุ 25 ปี ชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร และนายวีระศักดิ์ หรือนัด พลอยพันธ์ อายุ 27 ปี ชาว อ.นาตาล จ.มุกดาหาร พร้อมของกลางยาบ้า ทั้งหมด 20 มัด หรือจำนวน 39,975 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง และรถยนต์ 2 คัน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดจับกุมโดย ชปข.ร้อย ตชด. 215 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุม ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.หนองหงส์ กับ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งตัวดำเนินคดีไปก่อนหน้าแล้ว และทราบว่าเครือข่ายดังกล่าว มักจะนัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณตามหลักกิโลเมตร ถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง จากนั้น ชปข.ตชด.215 จึงได้ประสานความร่วมมือกับ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 , สำนักการข่าว กอ.รมน. และฝ่ายปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการสืบสวนขยายผลร่วมกัน จนทราบว่า จะมีการขนลำเลียงยาเสพติด มาส่งให้ลูกค้าตามเส้นทาง ถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง ในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 19 มี.ค.63 จึงวางกำลังดักซุ่มตามจุดต่างๆที่คาดว่าจะมีการนำยาบ้ามาวางไว้ ระหว่างนั้นพบรถยนต์เก๋งสีขาว ที่มีนายอภิชาต หรือท๊อป , นายประโยธร หรือก้าน และนายวีระศักดิ์ หรือนัด ขับโดยสารมาจากทางฝั่งตัวเมืองบุรีรัมย์ มุ่งหน้า อ.นางรอง ขับเข้ามาจอดใกล้บริเวณหลักกิโลเมตร แล้วนายประโยธร หรือก้าน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพหลักกิโลเมตร จำนวน 3 หลัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ จากนั้นไม่นานมีรถยนต์กระบะที่ นายพงศกร หรือเจม กับ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง (สองสามีภรรยา) ขับโดยสารได้ขับเข้ามาจอดบริเวณหลักกิโลเมตร ที่ได้มีการถ่ายภาพหลักกิโลเมตรดังกล่าว แล้วนายพงศกร หรือเจม ได้เดินลงมาพร้อมนำสิ่งของมาฝังไว้บริเวณหลังหลักกิโลเมตรทั้ง 3 หลัก จากนั้นนายพงศกร หรือเจม ได้เปลี่ยนมาขับรถแทน น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง เมื่อรถยนต์กระบะขับออกไป และวนรถกลับมุ่งหน้าตัวเมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ๆ ซุ่มดูอยู่ จึงไปตรวจสอบพบเป็นยาบ้า จึงแจ้งให้ชุดจับกุมไล่สกัดติดตามเพื่อจับกุม ระหว่างไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด พอถึงบริเวณป้ายบอกระยะทาง “บุรีรัมย์ 10 กม.” ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายพงศกร หรือเจม ได้ให้ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง นำยาบ้าที่เหลืออยู่ในกระสอบปุ๋ยโยนทิ้งข้างทาง เนื่องจากทราบว่ามีตำรวจขับไล่ติดตาม และมาถูกสกัดจับกุมได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงกระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สอบสวนเบื้องต้น นายพงศกร หรือเจม กับ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง ให้การยอมรับว่า ได้เป็นผู้นำยาบ้ามาวางไว้ให้ลูกค้าตามหลักกิโลเมตรดังกล่าว ทั้ง 3 หลักจริง และได้โยนยาบ้าที่เหลืออยู่ในกระสอบปุ๋ยทิ้งระหว่างทางหลบหนีจริง โดยมีเพื่อนที่มาด้วยกันขับรถยนต์เก๋งสีขาว ทำหน้าที่ดูเส้นทางล่วงหน้า และถ่ายภาพหลักกิโลเมตรต่างๆ เพื่อให้ตนนำยาบ้าไปวาง ได้ขับกลับไป จ.มุกดาหาร ก่อนหน้าแล้ว โดยใช้เส้นทาง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ไปผ่าน จ.ยโสธร ชุดจับกุมที่เหลือจึงได้ไล่ติดตาม พร้อมประสานกำลังตำรวจตามเส้นทางต่างๆ ที่รถเก๋งดังกล่าวขับผ่าน กระทั่งไล่ติดตามจับกุมนายอภิชาต หรือท๊อป , นายประโยธร หรือก้าน และนายวีระศักดิ์ หรือนัด ขณะนั่งโดยสารมากับรถยนต์เก๋ง ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ยโสธร จึงควบคุมตัวทั้งหมด พร้อมพาไปตรวจยึดของกลางที่วางไว้ทั้ง 3 หลักกิโลเมตร รวม 5 มัด หรือประมาณ 10,000 เม็ด กับที่อยู่ในกระสอบปุ๋ยที่โยนทิ้งข้างทางจำนวน 11 มัด หรือประมาณ 22,000 เม็ด นายพงศกร หรือเจม ยังให้การต่อว่า ก่อนจะนำยาบ้ามาวางตามหลักกิโลเมตร ริมถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง ตนเองยังได้วางยาบ้าไว้ที่บริเวณหลักกิโลเมตร จำนวน 2 หลักๆ ละ 2 มัด รวม 4 มัด หรือประมาณ 8,000 เม็ด ในเขต อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ชุดจับกุมจึงได้ประสานชุดสืบสวน สภ.ชุมพลบุรี เพื่อเข้าร่วมตรวจสอบตามหลักกิโลเมตรดังกล่าว พบเป็นยาบ้าตามจำนวนที่นายพงศกร หรือเจม ได้บอกจริง หลังจากนั้นชุดจับกุมได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด ไปตรวจค้นที่บ้านพักที่ นายพงศกรหรือเจมฯ และน.ส.เพ็ญนภาหรือแป้ง พักอาศัยอยู่ร่วมกันที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนอีก 176 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด พร้อมตรวจยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้งหมด ที่คาดว่าน่าจะได้มาจากการค้ายาเสพติด ไว้เพื่อตรวจสอบ ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 เป็นรถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน แหวนทองคำ 2 วง สร้อยข้อมือ 1 เส้น และสร้อยคอทองคำอีก 1 เส้น รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 1 ล้านกว่าบาท สอบถามนายอภิชาต หรือท็อป บอกว่านายประโยธร หรือก้าน ได้โทรศัพท์มาชักชวนให้ตนไปช่วยขับรถ เพื่อดูเส้นทางให้กับรถที่จะนำยาบ้าไปวางให้ลูกค้า จึงตอบตกลงโดยนั่งมากับรถยนต์เก๋ง 3 คน และผลัดกันขับถ้าขับไหว พอเข้าเขตบุรีรัมย์ตนเป็นคนขับ โดยนายประโยธร หรือก้าน เป็นผู้บอกทาง และนายประโยธร หรือก้าน ที่นั่งข้างกับตนได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปหลักกิโลเมตร เมื่อถ่ายรูปเสร็จนายประโยธร หรือก้าน จะใช้โทรศัพท์คุยกับนายพงศกร หรือเจม จนครบทั้ง 3 หลัก แล้วนายประโยธร หรือก้าน ได้บอกให้ตนกลับรถมุ่งหน้าเข้าเมืองบุรีรัมย์ในเส้นทางเดิม เมื่อขับมาถึงสี่แยกไฟแดง จ.ยโสธร ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวให้ตนหยุดรถ และแจ้งขอตรวจค้นตัวกับตรวจค้นภายในรถ ไม่พบสิ่งของที่ผิดกฎหมาย จากนั้นก็มีตำรวจที่ขับตามมาจากบุรีรัมย์ ได้เข้ามาจับกุมพวกตนทั้ง 3 ไปร่วมกับนายพงศกร หรือเจม กับ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง ด้านนายพงศกร หรือเจม บอกว่า ตนมีหน้าขนยาบ้าไปวางตามหลักกิโลเมตร ที่นายประโยธร หรือก้าน กับพวก ได้ขับรถสำรวจเส้นทางล่วงหน้า พร้อมถ่ายภาพหลักกิโลเมตรจุดวางยาบ้าส่งมาให้ เพื่อให้ตนนำยาบ้าไปวางตามที่นายก้านกำหนดให้ ตนก็ได้นำยาบ้าไปวางตามหลักกิโลเมตรเรื่อยมา ตั้งแต่ จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด, จ.สุรินทร์ และที่ จ.บุรีรัมย์ เสร็จแล้วขึ้นรถ โดยตนเป็นคนขับเดินทางมุ่งหน้า อ.นางรอง แล้วกลับรถตรงจุดกลับรถ ตนสังเกตเห็นว่ามีรถยนต์ขับตาม แล้วให้ น.ส.เพ็ญนภา หรือแป้ง โยนยาบ้าที่เหลือในกระสอบปุ๋ยทิ้งระหว่างทาง และมาถูกสกัดจับได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ก่อนเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์