"แพทย์สภา"เผย "นายกฯ" รับข้อเสนอ "คณะแพทย์" ด้าน"ปลัดสธ." ชี้ ผู้ป่วยใหม่เป็น "คนชั้นกลาง- ผู้มีฐานะ" เข้าผับ-สถานที่ปิด เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมประชุมหารือร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัย เพื่อหารือรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมง โดยศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา เปิดเผยภายหลังการหารือ ว่า นายกฯ ได้รับฟังข้อเสนอแนะของเหล่าคณบดีคณะแพทยศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งโดยหลักจะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ซึ่งขอให้ฟังรายละเอียดความชัดเจนจากนายกฯ ต่อไป ด้านนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารสุข เปิดเผยว่า วันนี้เราพูดคุยกันถึงเรื่องของเทคโนโลยีใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในเวลาที่ต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน รวมถึงดูแลผู้ป่วยที่เป็นความร่วมมือระหว่างคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะมีการพูดคุยในเรื่องของมาตรการ โดยเริ่มตั้งแต่ ที่ศูนย์กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง วันนี้เราจะใช้เครื่องมือใหม่สำหรับการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย ซึ่งต้องมาศึกษาวิจัย โดยเครื่องมือเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากโรงพยาบาลในเครือกรุงเทพ จำนวน 200 ชุด ซึ่งเป็นเครื่องมือลักษณะ ที่จะมีการวัดความดัน ดูลิ้น วัดคลื่นหัวใจ วัดชีพจร วัดไข้ ส่วนจะกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆอย่างไรจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง เมื่อถามว่านายกฯ ได้ให้คำแนะนำอะไรเป็นพิเศษบ้าง นพ.สุขุม กล่าวว่า นายกฯ ย้ำให้ดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุด เพราะถือว่าชีวิตคนไทยมีค่า โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการหาเตียงให้ผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ สำหรับปัจจุบันเรื่องของเตียงผู้ป่วยในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัด ก็มีจำนวนเพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วย ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวโน้มการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยจะมีมากขึ้นไปอีกแค่ไหน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ถ้าสังเกตไทม์ไลน์ของผู้ป่วยกลุ่มใหม่จะเป็นกลุ่มชนชั้นกลางและกลุ่มผู้มีฐานะที่ไปเที่ยวในผับและสถานที่เฉพาะ ส่วนคนไข้ใหม่ทั่วไปยังมีจำนวนไม่มาก ขณะนี้กำลังติดตามอยู่เป็นระยะๆ ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า การหารือครั้งนี้ เป็นการหารือความร่วมมือกันระหว่างคณะแพทย์ต่างๆ ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาดให้มีประสิทธิภาพ โดยที่ประชุมไม่ได้พูดคุยกันถึงขั้นจะยกระดับการแพร่ระบาดเป็นระยะที่ 3 แต่อย่างใด