ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย วันนี้ขอไม่เขียนเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทย เพราะอิดหนาระอาใจกับวิธีการบริหารยามวิกฤติ (Crisis Management) ของรัฐบาลเต็มที แต่พูดไปก็ไร้ประโยชน์เพราะเขาคงไม่ฟัง เอาเป็นว่าในยามนี้พวกเราหลายคนพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลทุกอย่าง แต่ขอให้ชัดเจนและเด็ดขาดไม่ใช่มาพูดอย่างเดียวเท่านั้นก็พอ ขอตัดกลับไปเขียนถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งงวดเข้ามาทุกทีสำหรับสหรัฐฯตัวยืนจากพรรครีพับลิกันคงได้แก่นายโดนัล ทรัมป์ ยกเว้นว่าท่านจะมีอันเป็นเสียก่อน ส่วนทางพรรคเดโมแครตกำลังชิงกันระหว่างนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสมัยโอบามา กับวุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์ส เมื่อไม่นานมานี้มีการแข่งขันกันภายในพรรครอบตัดเชือกที่เรียกว่า Super Tuesday ซึ่งทำให้ผู้สมัครหลายคนประกาศถอนตัว หลังจากหยั่งเสียงแล้วคงไม่รอด มีบางคนหันมาสนับสนุนนายโจ ไบเดน เช่น วุฒิสมาชิก Amy Klobuchar หรือ นายกเทศมนตรีเซาท์เบนด์ Pete Buttigieg ส่วนนาย Michael Bloomberg มหาเศรษฐีอดีตนายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ก็ประกาศถอนตัวเช่นกัน หลังจากทุ่มหาเสียงด้วยงบประมาณมหาศาล 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าคนอื่นๆหลายเท่า ผู้เขียนเองก็ผิดพลาดคิดว่า บลูม เบิร์ก น่าจะเข้ารอบชิงกับ แซนเดอร์ส แต่ผลออกมากลับพบว่า โจ ไบเดน ซึ่งตอนต้นๆค่อนข้างแผ่ว พลิกกลับมาพุ่งแรง โดยกวาดคะแนนไปหลายรัฐ เช่น รัฐทางใต้ ตะวันตกกลาง เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา อาร์คันซอ อลาบามา เทนเนสซี โอกลาโฮมา แมสซาจูเซท มินนิโซตา และเทกซัส ทั้งนี้ไบเดน ยังกวาดคะแนนส่วนใหญ่จากคนอเมริกัน-อาฟริกันอีกด้วย ส่วนแซนเดอร์ส ชนะภาคตะวันตก ด้วยชัยชนะในรัฐโคโลราโด และ ยูท่าห์ ที่สำคัญคือชัยชนะที่ คาลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคนอเมริกันเชื้อสายลาตินจำนวนมากสนับสนุน อนึ่งเบอร์นี แซนเดอร์ส ยังได้รับการสนับสนุนจากบ้านเกิดรัฐเวอร์มอนด์ อย่างท่วมท้น โจ โบเดน นั้นในช่วงที่เป็นรองประธานาธิบดีสมัยโอบามา ก็ไม่ได้มีบทบาทมากนัก แต่มาเป็นข่าวโด่งดังเมื่อมีข่าวรั่วออกมาว่าทรัมป์ ข่มขู่ ยูเครน ให้เล่นงานลูกชายไบเดน และตัวไบเดนในข้อกล่าวหาสมคบคิดกันทุจริตในบริษัทค้าน้ำมันที่ไปร่วมกับยูเครน แต่ทางประธานาธิบดียูเครนปฏิเสธที่จะร่วมมือ จึงถูกทรัมป์ตัดงบช่วยเหลือทางทหารไปเป็นจำนวนมาก นี่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ทรัมป์ถูกสอบสวนเพื่อถอดถอน แต่ก็อย่างว่าพวกมากลากไป ส.ว.รีพับลิกันมีจำนวนมากกว่าในสภาสูง จึงทำให้การถอดถอนต้องตกไป แต่เรื่องราวของไบเดน ก็มิใช่จะจบไปเฉยๆ เมื่อมีการเลือกตั้ง หากโจ ไบเดน ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ก็คงมีการนำข้อมูลมาถล่มอีก แต่นัยสำคัญที่โจ ไบเดน อาจได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็คือ โจ ไบเดน และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรยิว ในสหรัฐฯ รวมทั้งการสนับสนุนจากขบวนการ ไซ ออนิสต์ ที่มีอิทธิพลต่อการเมืองสหรัฐฯ แบบที่เรียกว่า “รัฐลึก” (Deep State) ส่วนเบอร์นี แซนเดอร์ส นั้นปฏิเสธที่จะไปร่วมงานชุมนุมขององค์กรยิวในสหรัฐฯ จึงพอมองเห็นจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่ยอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของรัฐลึก ไซออนิสต์ ที่สำคัญเบอร์นี แซนเดอร์ส ยังมีแนวคิดค่อนข้างไปทางสังคมนิยม กล่าวคือ เห็นอกเห็นใจคนยากจน คนผิวสี ที่ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบสนับสนุนโครงการรักษาพยาบาลเป็นรัฐสวัสดิการ ตลอดจนตอบสนองต่อการขับเคลื่อนเพื่อชะลอภาวะโลกร้อน แต่ก็ยังไม่วายมีขบวนการที่จะกล่าวหาแซนเดอร์สว่า รัสเซีย จะเข้ามาแทรกแซงและช่วยเหลือแซนเดอร์ส เหมือนเมื่อครั้งที่ทรัมป์เคยถูกโยงใยมาแล้ว แต่ครั้นมีการสอบสวนก็พ้นมลทินไป ครั้งนี้ก็เริ่มมีการกล่าวหาว่ารัสเซียได้เข้ามาสนับสนุนแคมเปญการเลือกตั้งของแซนเดอร์ส ซึ่งแซนเดอร์สก็ให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะไม่ยอมรับการสนับสนุนใดๆ จากรัสเซีย และที่สำคัญข่าวก็ยังไม่ระบุว่ารัสเซียมาช่วยอะไร (ข่าวจากวอชิงตันโพสต์) การนำเอารัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องก็เหมือนกับที่ผ่านมา นั่นคือรัสเซีย ถูกสร้างภาพว่าเป็นตัวร้าย และจะเข้าแทรกแซงต่างชาติโดยเฉพาะสหรัฐฯทุกครั้งเมื่อมีโอกาส การไปเชื่อมโยงรัสเซียกํบการเลือกตั้ง คือการเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาความมั่นคงและการทหาร แม้ว่าในเดือนเมษายน 2019 US Special Counsel นาย Robert Mueller จะยืนยันในรายงานแล้วว่าไม่พบประจักษ์พยานหรือหลักฐานใดๆเลย ว่ามีความเกี่ยวพันกันระหว่างแคมเปญของทรัมป์กับรัสเซียในช่วงปี 2016 แต่เรื่องการแทรกแซงเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ จากรัสเซียก็ยังคงเป็นหัวข้อสนทนาในวงการเมืองสหรัฐฯ และส่งผ่านให้คนเมกันที่ไม่สู้มีการศึกษาและคับแคบรับมาฝังหัว แถมยังพยายามโยงใยจากเรื่องยูเครนที่ทรัมป์ไปกดดันให้จัดการ ไบเดน ไปสู่การเชื่อมโยงกับรัสเซีย น่าสงสารแซนเดอร์ส แม้เขาจะปฏิเสธอย่างไร แต่การฝังรากของความระแวงเรื่องอิทธิพลของรัสเซียในการเลือกตั้งก็คงกลายเป็นเครื่องมือคอยโจมตี กล่าวหาหากได้เข้าแข่งขันเป็นประธานาธิบดีเหมือนที่ทรัมป์เคยโดนมาแล้วเมื่อปี 2016 ประเด็นที่ควรกังวลคือข้อกล่าวหานี้มาจากพรรคเดโมแครต และจะเป็นอันตรายต่อแซนเดอร์สในการที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นตัวแทนในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือหากทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีในเรื่องพัวพันกับรัสเซียอีก ขวัญใจคนจนอย่างแซนเดอร์สจึงยากที่จะต่อต้านพลังที่อยู่เบื้องหลังที่มีมหาศาลทั้งจากพรรครีพับลิกัน และภายในพรรคตนเอง นอกจากนี้แซนเดอร์สยังเจอกับพลังการต่อต้านจากฝ่ายทหารและกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร เพราะเขาต่อต้านการทำสงคราม ซึ่งจะกลายเป็นประเด็นที่กล่าวหาว่าเขาทำให้อำนาจทางทหารของสหรัฐฯตกต่ำ ทำให้เป็นรองรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นแซนเดอร์สยังถูกป้ายสีจากหน่วยข่าวว่ามีความสัมพันธ์ในฐานะเอเยนต์ของรัสเซีย ซึ่งแซนเดอร์สแม้ปฏิเสธก็ไม่รู้จะแก้ได้อย่างไร เพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรที่จะมาพิสูจน์ ในทางตรงข้ามหากสหรัฐฯจะกังวลต่อการแทรกแซงของต่างชาติในการเลือกตั้ง อิสราเอลนั้นเข้าแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะโดยองค์กรความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อิสราเอล หรือการสนับสนุนทั้งส.ส.และส.ว.เป็นรายบุคคล นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูยังเข้ามาร่วมประชุมกับสภาทั้ง 2 ของสหรัฐฯ อย่างโจ่งแจ้ง โดยรัฐบาลสหรัฐฯไม่ได้เชิญ จึงเห็นได้ว่าขบวนการยิวไซออนิสต์นั้น มีอิทธิพลที่กล้าแข็งในการเข้าแทรกแซงการเมืองของสหรัฐฯ โดยประชาชนอเมริกันมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยอิทธิพลของสื่อกระแสหลักที่คอยปกป้องอิสราเอล และล้างสมองประชาชน แม้จะมีชาวอเมริกันบางส่วนรู้ความจริง และมีชาวยิวที่มีใจรักความเป็นธรรม แต่พลังเหล่านี้ก็ไม่อาจต้านทานพลังที่แข็งกล้าของไซออนิสต์ได้ ข่าวเมื่อวันอังคารแจ้งว่าโจไบเดน กวาดชัยชนะที่มิชิแกน มิสซูรี มิสซีสซิปปี้ และไอดาโฮ ส่วนแซนเดอส์ชนะที่นอร์ทดาโกต้า และคาดว่าจะชนะที่วอชิงตัน แต่ถึงตอนนี้ไบเดนก็ใกล้เส้นชัยไปแล้ว ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่างานนี้โจ ไบเดน น่าจะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยที่ขบวนการไซออนิสต์ ไม่ต้องกังวลเลยว่าใครจะได้ชัยชนะ อนึ่ง การชุมนุมลงคะแนนสรรหาอาจต้องยุติลงเพราะการระบาดของโควิด-19