“COVID Tracker by MOPH” โหลดได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ พร้อมให้สพฉ.ทำแผนย้ายผู้ป่วยรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มกำลังผลิตหน้ากากอนามัย เจรจาจีนซื้อยาต้านไวรัสเพิ่ม ขณะทั่วไทยมี 7,000 เตียงรองรับคนติดเชื้อ ไม่พอต้องเปิดรพ.สนาม ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมการดูแลประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ก.สาธารณสุขร่วมกับบริษัทเอกชน เปิดตัวแอปพลิเคชัน COVID Tracker by MOPH แสดงข้อมูลพิกัดที่อยู่ผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประชาชนทราบสถานการณ์การระบาดของโรค โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ได้ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ทำแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยร่วมกับอาสากู้ภัย โดยเสนอของบฯจากส่วนกลาง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเกิดการระบาดจะมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินเข้ามาดูแล และได้ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพหารือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการใช้สิทธิ UCEP โควิด - 19 กรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนเพื่อรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ในอีก 2 – 3 วัน โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่สายด่วน 02 – 872-1669 สำหรับความพร้อมของอุปกรณ์ป้องกันโรคและรักษาผู้ป่วย มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนโรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลรัฐสังกัดอื่นๆ โดยชุดป้องกันตนเอง (PPE) จะสั่งซื้อเพิ่มจากเวียดนามและจีน และได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับบริษัทเอกชนเร่งผลิตชุดเพื่อใช้กับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีการเพิ่มกำลังการผลิตในภายประเทศ และเจรจากับโรงงานที่จีนขายให้ประเทศไทยเพิ่มขึ้น และยาต้านไวรัสได้ให้องค์การเภสัชกรรมซื้อตรงจากประเทศจีน รองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มี 40,000 เม็ด ซึ่งเพียงพอสนับสนุนทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ในส่วนเรื่องเตียงรองรับผู้ป่วย ขณะนี้กทม.มี 1,000 เตียง และต่างจังหวัดทั่วประเทศ มี 6,000 เตียง หากมีผู้ป่วยจำนวนมากจะเปิดโรงพยาบาลสนาม ดร.สาธิตกล่าวว่า นายกฯเป็นห่วงขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ได้อนุมัติงบกลาง เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้กับเจ้าหน้าที่ และได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน มอบกรมธรรม์ประกันชีวิตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจทางด้านประกันภัย (คปภ.) 70,000 กรมธรรม์ และมีอีกหลายบริษัทได้มอบอีก 50,000 กรมธรรม์