ทั้งนี้ทางรัฐบาลสิงคโปร์ ได้ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน ทั้งภายในประเทศสิงคโปร์และในระดับโลก เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหมู่ประชาชน และลดโอกาสในการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศสิงคโปร์ (ICA) มีมาตรการตรวจคัดกรองสุขภาพ และวัดอุณหภูมิร่างกายนักท่องเที่ยว ณ ด่านตรวจทุกแห่ง ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ นอกจากนี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยเฉพาะในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนเป็นพื้นที่อันตราย สิงคโปร์จึงมีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นโดยความร่วมมือจากหลายกระทรวง เพื่อร่วมกันบังคับใช้มาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อประเทศสิงคโปร์ โดยคณะทำงานเฉพาะกิจจะทำหน้าที่บังคับใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออก นอกเหนือจากมาตรการควบคุมบริเวณเขตแดนแล้ว ด่านที่สองของการป้องกันคือการระบุตัวและคัดแยกผู้ที่ติดเชื้อไวรัส รวมถึงบุคคลใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน โดยทางรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติครั้งนี้ ซึ่งในงบประมาณนี้ เงินจำนวน 800 ล้านดอลลาร์ฯ ได้ถูกจัดสรรให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับมือและเยียวยากรณีเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ล่าสุด ณ ตอนนี้ บุคคลที่ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ได้ถูกแยกตัวเพื่อติดตามอาการ และผู้ใกล้ชิดก็ได้ถูกกักตัวอยู่ตามสถานที่ที่ภาครัฐได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ที่จำเป็นต้องกักกันตนเองสามารถแจ้งสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษา เพื่อลาหยุด หรือกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยจะต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการพบเจอบุคคลอื่น และจดรายละเอียดว่ามีบุคคลใดบ้างที่ได้ใกล้ชิดในระหว่างกักตัว อีกทั้งช่วงที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NEA) ได้ประกาศเปิดตัวแคมเปญ SG Clean ผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านการรักษาสุขอนามัย สำหรับบุคคลทั่วไปจนถึงองค์กรธุรกิจ เพื่อยกระดับการรักษาสุขอนามัยที่ดีในระดับประเทศ โดย ได้ร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงาน ได้แก่ เอ็นเตอร์ไพรส์สิงคโปร์ สำนักงานพัฒนาเด็กปฐมวัย การท่องเที่ยวสิงคโปร์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม และสำนักงานอาหารสิงคโปร์ ในการผลักดันภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศให้ร่วมยึดหลักปฏิบัติสุขาภิบาลและสุขอนามัยที่ดีผ่านแคมเปญดังกล่าว ซึ่งภายใต้แคมเปญนี้ เครื่องหมายรับรองคุณภาพ SG Clean จะถูกนำไปมอบให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ครอบคลุมสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ศูนย์อาหาร สถานีขนส่งสาธารณะ อย่างสถานีรถไฟ หรือจุดเปลี่ยนรถประจำทาง โรงเรียนอนุบาล สถานศึกษา สถานที่ราชการ โรงแรม สถานที่จัดประชุม สถานที่ท่องเที่ยว ท่าเรือ อาคารสนามบิน รีสอร์ทแบบครบวงจร ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนร้านอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ โดยทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดด้านความสะอาดและสุขอนามัย ที่สามารถปรับให้เหมาะสมต่อความต้องการและวิธีดำเนินงานของแต่ละภาคธุรกิจ ซึ่งก่อนที่จะได้เครื่องหมายรับรอง SG Clean สถานที่นั้น ๆ จะต้องได้รับการตรวจสอบจากองค์กรหรือผู้ประเมินภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการดูแลความสะอาด และรักษาสุขอนามัยอย่างดีที่สุดอยู่เสมอ สำหรับโปรแกรมการรับรองนี้จะเริ่มนำมาใช้กับองค์กรที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยจะมีการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการรับรองว่าสถานที่นั้นปฏิบัติตามมาตรการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านสาธารณสุขอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจ้เป็นการรับมือกับวิกฤติในปัจจุบันแล้ว ในอนาคตยังเป็นการยกระดับ และปลูกฝังการดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเหตุนี้ สนามบินสิงคโปร์ชางงี และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ จึงได้ยกระดับมาตรการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในพื้นที่สาธารณะ ตัวอย่างเช่น สนามบินนานาชาติชางงี ได้เพิ่มจุดวางเจลทำความสะอาดมือกว่า 50% ทั่วทั้ง 4 อาคาร เช่น หลังผ่านเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองขาออกและขาเข้า บนเสา และบริเวณอื่น ๆ ที่มีผู้คนหนาแน่น ขณะที่ ศูนย์การค้า Jewel Changi Airport มีจุดตรวจคัดกรอง ณ ทางเข้าห้าง ด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย ทั้งสำหรับพนักงานและผู้เข้าใช้บริการทุกคน อีกทั้งยังมีเจลทำความสะอาดมือให้บริการตามจุดสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าออกโซน Canopy Park และเครื่องเล่นสันทนาการอื่นๆ รวมทั้งเคาน์เตอร์บริการลูกค้าทั้งหมด ส่วน มารีน่า เบย์ แซนด์ส ได้เพิ่มจุดตรวจวัดอุณหภูมิ เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคทั่วทั้งบริเวณ รวมถึงบริเวณทางเข้าออกในส่วนของโรงแรม และร้านค้า นอกจากนี้ยังได้ปิดทางเข้าออกโซน The Shoppes บางส่วนเพื่อให้บริการตรวจวัดอุณหภูมิได้สะดวกขึ้น ด้าน รีสอร์ทเวิลด์ เซ็นโตซ่า ได้เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ถึง 700% ทั้งในบริเวณโรงแรม และพื้นที่ส่วนกลาง (เช่น บนโต๊ะเคาน์เตอร์ และบริการรถรับส่งของโรงแรม) เครื่องเล่นต่าง ๆ (รวมถึงการฆ่าเชื้อบริเวณราวบันได คอกหมุน ฯลฯ) ไปจนถึงในร้านอาหารและเครื่องดื่ม (ภัตตาคารและห้องครัว)