จาก 2 กลุ่มก้อนใหญ่ กลุ่มแรก 29 รายจากแหล่งแพร่กระจายโรคที่เดิม สนามมวย 13 ราย ผับทองหล่อ 4 และติดจากผู้ป่วยก่อนหน้าอีก 12 ส่วนกลุ่มสองอีก 6 โดยกลับจากกัมพูชา 1 ทำงานใกล้ชิดต่างชาติ 4 รอผลอีก 1 ขณะพบป่วยมีอาการหนักเพิ่มอีก 2 ห่วงพบเคสผู้ป่วยใหม่ไม่ร่วมมือกักตัวเอง ยังนำโรคไปติดครอบครัว เพื่อน เสี่ยงสถานการณ์เลวร้ายอาจระบาดจนไม่อาจคุมได้ พร้อมเตือนหากไปสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน วันที่ 6-8 มี.ค และเที่ยวผับ ร้านกลางคืนในกทม.ช่วง 9-10 มี.ค. เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ให้สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน ขณะ 19 มี.ค.นี้ สธ.เตรียมซ้อมแผนจำลองรับมือสถานการณ์วิกฤติโควิด อย่าตื่นตระหนก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้ได้รับรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่ม 35 ราย ทำให้จำนวนสะสมของผู้ป่วยอยู่ที่ 212 ราย ทั้งนี้ 35 รายดังกล่าวนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่ม 1 จากการสืบสวนโรคจากกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 29 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวยจากสนามมวยลุมพินี สนามมวยอ้อมน้อย และสนามมวยราชดำเนิน 13 ราย, กลุ่มสถานบันเทิงย่านทองหล่อ 4 ราย และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 12 ราย กลุ่ม 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 6 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย (กลับจากประเทศกัมพูชา) ทำงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ 4 ราย และรอผลสอบสวนโรคเพิ่มเติม 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่ม 2 ราย คือ ชายไทยอายุ 49 ปี อยู่ที่ รพ.สุราษฏร์ธานี และชาวเบลเยียม ชาย อายุ 67 ปี อยู่ รพ.ในจ.เพชรบูรณ์ อย่างไรก็ตาม จากผู้ติดเชื้อสะสม 212 ราย มีผู้หายป่วยและกลับบ้านได้แล้ว 42 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 169 ราย อาการหนัก 3 ราย และเสียชีวิต 1 คน สำหรับกลุ่มที่เดินทางกลับจากอิตาลี ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี 83 คน มี 6 คน รับตัวไว้ที่โรงพยาบาล ทั้งหมดไม่มีไข้ ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อ ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการ จนครบ 14 วัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากการคัดกรองครอบคลุมไปยังกลุ่มคนและสถานที่ที่คาดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด สอดคล้องกับรายงานการสอบสวนโรคที่พบว่า ผู้ป่วยรายใหม่ที่พบมีประวัติเสี่ยง ไม่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของก.สาธารณสุข ยังคงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ไปในสถานที่ที่มีคนแออัด สังสรรค์ ไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่กักกันตัวเองอย่างเคร่งครัด เมื่อป่วยทำให้นำโรคไปติดคนใกล้ชิดในครอบครัวเพื่อนสนิท ที่สำคัญโรคนี้มีความรุนแรงในกลุ่ม ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัว หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การระบาดของโรคในประเทศจะเป็นวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนที่กลับจากพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 132 คน ติดตามตัวได้แล้ว 89 คน พบป่วย 11 คน ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 คน อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือใครที่เข้าไปสนามมวยลุมพินี สนามมวยราชดำเนิน วันที่ 6 -8มี.ค. และไปผับ, ร้านอาหารกลางคืนในพื้นที่กทม. 9-10 มี.ค. ให้สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน ถ้ามีไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านฟรี หรือโทรสอบถามรายละเอียดที่ 1422 ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศน์ เขตสุขภาพที่ 10 กล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับกระทรวงกลาโหม จะมีการซ้อมแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะสร้างสถานการณ์จำลองในวันที่ 19 มี.ค.นี้ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ย้ำว่าเป็นการซ้อมแผน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนรายละเอียดว่าจะซ้อมที่ไหน อย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง