"เสรีพิศุทธิ์"ลั่นไม่กลัวโควิด-19 ชี้ฝ่าดงกระสุนเสี่ยงมาเยอะ เตือนปิดบางจังหวัดส่อวาระแอบแฝง ผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหาประโยชน์ ซัดนายกฯล้มเหลว ท้าไม่ไหวลาออกไป เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผย การประชุมคณะกรรมาธิการฯยังคงประชุมตามปกติ เว้นแต่องค์ประชุมไม่ครบ โดยวันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยเร่งด่วน และจะรีบขอมติว่าจะเชิญบุคคลใดมาชี้แจงบ้าง เพราะประธานสภาฯขอให้ประธานกรรมาธิการพิจารณากันเองว่างดประชุมหรือไม่ "ผมผ่านชีวิตมามากแล้ว อย่าว่าแต่โควิดเลย ดงกระสุน ดงกระเบิดสมัยปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในเทือกเขาภูพาน ผมของจริงผมฝ่ามาเยอะ ตายในสมัยนั้นเรายังไม่กลัว ตอนนั้น 20 กว่าๆ ยังไม่กลัวตาย แล้วตอนนี้ 70 แล้วใกล้จะตายแล้ว จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ จะมานั่งกลัวตายอะไรอีก" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว และว่า เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการพึ่งคณะกรรมาธิการฯมีมาก แล้วเราจะมาเกรงกลัวเรื่องเหล่านี้ ทางสภาฯเองก็มีการป้องกันและคัดกรองบุคคลและมีการทำความสะอาด อย่าไปกังวลเรื่องโควิดมาก คุณสิระบอกไปตรวจโควิดมาแล้ว และมาขอนั่งใกล้ ๆ ยังไม่ใส่ใจอะไรเลย มานั่งมา ถ้าเรามีแต่ความกลัวอย่าเป็นเลยผู้แทน เราต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เมื่อถามว่า มองถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ควรเป็นหน้าที่ของนายกฯต้องประสานกับจังหวัดและพิจารณาข้อมูลแต่ละจังหวัดว่าควรปิดหรือไม่ เพราะถ้าไปให้อำนาจจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งพิจารณากันไปแล้วก็อาจขาดมาตรฐาน เพราะผู้ทรงอิทธิพลในจังหวัดมีอยู่ การไปปิดจังหวัดและทำอะไรก็ตาม บางอย่างก็ไม่แน่อาจจะอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ทรงอิทธิพลภายในจังหวัดนั้นและจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเกิดความเดือดร้อน "สมมติผู้ทรงอิทธิพลประกอบธุรกิจอะไร ก็จะอาศัยเวลานี้ตักตวงผลประโยชน์ของตน ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดห้ามโน่นห้ามนี่ แต่กิจการของตัวเองเจริญรุ่งเรืองได้ เหมือนกับการกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม อย่าคิดว่าทุกคนอยู่บนพื้นฐานความสุจริตอย่างเดียว มันไม่แน่ มันอาจมีอย่างอื่นเคลือบแฝง ปิดจังหวัดนี้คนมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังผู้ว่าฯก็ได้ประโยชน์ แต่คนอื่นเสียประโยชน์ก็มี ผมถึงบอกว่าต้องคิดให้รอบคอบ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า นายกฯต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าบอกว่าตัวเองเหนื่อยก็ขอให้ลาออกไป ตนติดตามการทำงานของนายกฯล้มเหลว วันที่แถลงก็ไม่มีสาระอะไรเลย แทนที่จะแถลงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาโควิด-19 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การประชุมวิสามัญต้องอาศัยเสียงของทั้งสองสภาจำนวน 1ใน3 ฝ่ายค้านขอเปิดฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะเสียงไม่พอ จึงควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนจะเลื่อนการเปิดประชุมสมัยสามัญในเดือนพ.ค.ออกไปหรือไม่ เป็นหน้าที่ของสภาฯที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่ามากลัวอะไรเกินกว่าเหตุ ถ้าทุกคนกลัวเกินกว่าเหตุแล้วประเทศจะไม่เดินหน้า "ถ้าผมเป็นประธานชวนผมก็เสนอเปิดประชุมปกติตามรัฐธรรมนูญ ใครจะขาดประชุมและองค์ประชุมก็อีกเรื่องหนึ่ง" พล.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว