เล็งยกเลิกตรวจสุขภาพประจำปีแรงงานต้างด้าวลดแออัดในรพ.-ลดภาระพยาบาล-หมอ จัดเตรียมถังขยะติดเชื้อไว้รองรับหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ศูนย์บริการสาธารณสุขกทม.68 แห่ง ศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า และกทม.2 ดินแดง พร้อมปรับเปลี่ยนแนวทางให้ข่าวใหม่ ไม่ต้องยกทีมมาที่ศาลาว่าการกทม. ให้ส่งคำถามมาล่วงหน้า แล้วจะส่งคำตอบ อัดคลิปคำสัมภาษณ์ให้ตามคำขอ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวว่า จากที่ได้มอบหมายให้สำนักปกครองและทะเบียน(สปท.) กรุงเทพมหานคร หารือกับกระทรวงแรงงาน กรณีที่นายจ้างจะต้องนำแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ไปรายงานตัวเพื่อต่ออายุใบอนุญาตประกอบอาชีพ ซึ่งแรงงานต่างด้าวจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนั้น เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทางหนึ่งนั้น สปท. อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อขอยกเลิกการตรวจสุขภาพประจำปีของแรงงานต่างด้าว เพื่อลดความแออัดภายในโรงพยาบาล และลดภาระของแพทย์และพยาบาลในการดูแลเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ด้วย ในส่วนการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าสำหรับแจกจ่ายให้บุคลากรกทม.และประชาชน สำนักพัฒนาสังคมได้เปิดสอนบุคลากรสำนักงานเขตและประชาชนไปแล้ว 35 สำนักงานเขต ส่วนเขตที่เหลืออยู่ระหว่างจัดส่งวิทยากรไปสอนคาดว่าจะครบทุกพื้นที่ภายใน มี.ค. 63 นี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะสอน ณ หน่วยงานของรัฐและเอกชน กว่า 130 แห่ง ได้แก่ หน่วยงานทหาร สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ สรุปยอดรวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครผลิตได้ 13,014 ชิ้น และที่หน่วยงานต่างๆ ทำการสอนเพื่อแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชน 29,004 ชิ้น รวมจำนวนหน้ากากอนามัยผ้าที่ผลิตได้ทั้งสิ้น 42,018 ชิ้น ทั้งนี้กทม.ได้บริหารจัดการการใช้หน้ากากอนามัยแบบทางการแพทย์และหน้ากากอนามัยแบบผ้าโดยคำนึงความเหมาะสมและความปลอดภัยของบุคลากรของกทม.ที่ต้องปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล รวมถึงพนักงานรักษาความสะอาดของสำนักงานเขตต่างๆ ด้วย สำหรับการทิ้งและกำจัดหน้ากากอนามัยใช้แล้วซึ่งถือว่าเป็นขยะติดเชื้อแม้ผู้สวมใส่จะไม่ใช่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือผู้สงสัยว่าป่วยก็ตาม กทม.ได้จัดเตรียมถังขยะติดเชื้อไว้ที่สำนักงานเขต 50 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) บริเวณหน้าห้องตรวจโรค ชั้น 1 ฝั่งถนนดินสอ ศาลาว่าการกทม.2 (ดินแดง) บริเวณจุดคัดกรอง 4 จุด ประกอบด้วย อาคาร 1 (อาคารสำนักการโยธา) บริเวณทางเข้าด้านธนาคารกรุงไทย อาคาร 2 (อาคารสำนักการระบายน้ำ) บริเวณทางเข้าด้านห้องละหมาด อาคารธานีนพรัตน์ 2 จุด (ด้านฝั่งวิภาวดี และด้านฝั่งวงเวียนน้ำพุ) และอาคารไอราวัตพัฒนา บริเวณทางเข้าชั้น B1 ใกล้ลานน้ำพุ เพื่อกทม.จะได้นำไปทำลายตามขั้นตอนต่อไป ด้านนางจินดารัตน์ ชโยธิน ที่ปรึกษาและโฆษกกกทม. กล่าวว่า กทม.ห่วงใยต่อสุขภาพทุกคน รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชน และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กำหนดไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน จึงปรับเปลี่ยนแนวทางเผยแพร่ข่าวของกทม. และการทำข่าวของสื่อมวลชน ดังนี้ 1.สำนักงานประชาสัมพันธ์ จะแจ้งกำหนดการของผู้บริหารตามปกติ พร้อมจัดทีมทำข่าว ถ่ายภาพนิ่ง/วิดีโอ เพื่อส่งให้ผู้สื่อข่าวทุกภารกิจ 2.เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัย ลดความเสี่ยงติดเชื้อ กทม.จะงดแถลงข่าวทุกกรณี หากมีประเด็นข้อสงสัยสอบถาม สามารถส่งคำถามไปยังทีมงานของสำนักงานประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ก่อนการประชุมใดๆ ของกทม. จากนั้นสำนักประชาสัมพันธ์จะถ่ายทำคลิปสัมภาษณ์ผู้บริหาร ตามประเด็นที่ต้องการ เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมจะส่งให้ข้อมูลดังกล่าวให้สื่อมวลชน โดยสื่อมวลชนไม่ต้องส่งทีมข่าวมาทำข่าวที่กทม. เพื่อลดความเสี่ยงของสื่อมวลชนทางหนึ่งด้วย