นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้บริหารตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล องค์การเภสัช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข สมาคมร้านขายยา เพื่อสอบถามความต้องการใช้แอลกอฮอลล์ในช่วงปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (COVID-19) นับว่ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น โดยวงการแพทย์ทุกหน่วยต้องการแอลกอฮอลล์ 1.3 ล้านลิตรต่อเดือน เพิ่มขึ้น 5 เท่าตัวจากเหตุการณ์ปกติ เช่น องค์การเภสัชมีความต้องการแอลกอฮอลล์ เพื่อใช้ผลิตเจลล้างมือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 2 แสนลิตรต่อเดือน เพิ่มเป็น 5 แสนลิตรต่อเดือน เภสัชทหารต้องการใช้ 7 หมื่นลิตรต่อเดือน โรงพยาบาล กทม. ต้องการ 5,000 ลิตรต่อเดือน เพิ่มเป็น 2.5 หมื่นลิตรต่อเดือน ทั้งนี้กรมสรรพสามิต จึงร่วมมือกับหลายหน่วยงานผู้ผลิตแอลกอฮอลล์ เน้นส่งมอบให้กับวงการแพทย์ตามความต้องการ หลังจากสอบถามการผลิตแอลกอฮอลล์ทั้งวงการคือ องค์การสุรา โรงงานสุราสามทับ และโรงงานผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ผลิตได้ 7.395 ล้านลิตรต่อวัน ขณะนี้ผู้ผลิตเจลล้างมือ สเปรย์ทำความสะอาดมือจำนวน 2,000 ราย จะรับซื้อหรือรับบริจาคแอลกอฮอลล์จากโรงงานแอลกอฮอลล์ นำมาผลิตเจลล้างมือ ผลิตภัณฑ์ทำความอาดเครื่องมือแพทย์ได้สะดวกมากขึ้น เป็นการชั่วคราวในช่วงเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ทันความต้องการทั้งประชาชนทั่วไปและวงการแพทย์ นอกจากนี้แนวโน้มการใช้เจล สเปรย์ล้างมือเพื่อทำความสะอาด มีแนวโน้มสูงขึ้นแม้การระบาดจะยุติลง เพื่อประชาชนสนใจเรื่องความสะอาดมากขึ้น