“เบสท์ริน” ร้อง “นายกฯ” หาทางออกปมรถเมล์เอ็นจีวี เผยรอหลักฐานยืนยันนำเข้าจากมาเลเซียจริง เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง ก.พ.) นายสันติ ปิยะทัต ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ที่ได้รับสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี จากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กรณีขสมก.ยกเลิกสัญญาดังกล่าว โดยนายสันติ กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวมีจำนวนรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ขณะนี้รถออกมาจากการควบคุมของกรมศุลกากรแล้วจำนวน 390 คัน และขสมก.ตรวจรับโอนกรรมสิทธิ์รถเมล์เอ็นจีวีไปแล้ว 292 คัน เหลือรถเมล์เอ็นจีวีอยู่ที่กรมศุลกากรประมาณ 99 คัน โดยการตรวจสอบแหล่งกำเนิดของรถเมล์เอ็นจีวีนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ซึ่งเรายืนยันว่ารถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวดำเนินการตามสัญญาประกวดราคา (ทีโออาร์) มีการประกอบที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารยืนยันจากประเทศมาเลเซีย และศาลปกครองยังมีคำสั่งให้ขสมก.ตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี แต่กลับยกเลิกสัญญาทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายกฯ เพื่อให้มีแนวทางที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถึงที่สุดแล้วถ้า ขสมก.ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงการยกเลิกสัญญากับทางบริษัทฯ ก็ต้องฟ้องร้องเพื่อคุ้มครองสัญญาต่อไป