ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(16มี.ค.)มีการประชุมซักซ้อมแผนการปฎิบัติการตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน หารือร่วมกันกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบิน ภาคเอกชนสายการบินต่างๆ รวมถึงคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ หรือ (เอโอซี-AOC) หารือในส่วนของผู้ประกอบการสายการบินเอกชน, ผู้แทนสมาคมธุรกิจการบินประเทศไทย ได้เตรียมข้อเสนอให้แก่ภาครัฐพิจารณาสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หากปัญหายืดเยื้อและมีการระบาดในประเทศหนัก ก็จะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวง ทั้งนี้มีข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการบินขณะนี้เห็นว่า ตอนนี้บางเที่ยวบินก็มีคนบินน้อยมาก พูดง่ายๆว่าลูกเรือกับผู้โดยสารจำนวนใกล้เคียงกัน แต่บางสายการบินก็ยังจำเป็นต้องทำการบินทั้งที่ขาดทุน ข้อเสนอที่จะให้รัฐบาลพิจารณาขณะนี้ คือ อาจจำเป็นต้องมีการปิดประเทศและพรมแดนของไทยเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของประเทศ ได้ทำงานกับภาระผู้ป่วยที่มีในขณะนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะหากยังเปิดบริการการบินทางอากาศ มีการบินไปมาและมีผู้ติดเชื้อใหม่เดินทางเข้ามาทุกวัน สุดท้ายก็จะคุมการระบาดได้ยาก ขณะที่ผู้บริหารของสมาคมฯรายหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ด้านการบินทั่วโลกขณะนี้มีประเทศอย่างน้อย 12 ประเทศทำการปิดประเทศ ในส่วนนี้ต้องยอมรับว่าเมื่อมีการเดินทางน้อยลง ธุรกิจสายการบินคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ก็เป็นโจทย์สำคัญให้ผู้บริหารประเทศทั่วโลกต้องมาคิดว่า จะมีมาตรการเบ็ดเสร็จอย่างไรที่ทำให้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 จบเร็วไม่ยืดเยื้อ "ยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวไม่ใช่ความตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แนวคิดเรื่องการปิดประเทศ ปิดเมือง จะเห็นว่ามีหลายประเทศหลายเมืองนำมาใช้ ถือเป็นมาตรการที่จัดการหนักในครั้งเดียว และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการลง คือ เริ่มจากหนักไปเบา แต่หากประเทศไทยทำกระจายเป็นส่วนๆปิดเฉพาะบางชุมชนบางพื้นที่ หรือทำจากเบาไปหาหนักในสถานการณ์การคุมโรคระบาดนั้น คงเป็นเรื่องที่จะประสบความสำเร็จได้ยากในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดคนตัดสินใจ คงต้องเป็นนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลเอง"