"จาตุรนต์" ขวางรัฐประหาร หนุนแก้ปัญหาตามระบบ เลือกนายกฯ คนนอกขัดตาทัพ แก้วิกฤตประเทศ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงปัญหาประเทศที่กำลังเผชิญ ว่า ปัญหาภัยแล้ง ฝุ่น PM  2.5  ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างรุนแรง รัฐบาลขาดประสิทธิภาพแก้ปัญหา และจากไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกอยู่แล้ว อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่านี้ มาตรการที่จะเข้ามาดูแลพยุงไม่ให้ผู้ประกอบการปิดกิจการและไม่เกิดการเลิกจ้างยังเป็นมาตรการที่เล็กเกินไป ดังนั้น ต้องเร่งออก งบฯกลางปีโดยเร็ว และจากปัญหาการทำงานรัฐบาลทำให้มีพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางทางการเมือง โยงไปจนถึงข่าวรัฐประหาร แต่โดยระบบรัฐธรรมนูญที่วางไว้ใครๆ ก็รู้ว่าการเปลี่ยนรัฐบาลทำได้ยาก แต่การรัฐประหารไม่ใช่การแก้ปัญหาและยิ่งทำให้เลวร้ายมากขึ้น ทางออกเวลานี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว. กลาโหม ลาออก ก็ต้องมาไล่ดูว่าใครจะเป็นนายกฯแทน ซึ่งจำกัดอยู่ผู้ที่เคยเป็นแคนดิเดตนายกฯ มาก่อน พรรคประชาธิปัตย์ คงไม่สามารถหันไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคก็ไม่ได้เป็นแคนดิเดต ก็จะตกไปที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว. สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจ แต่ก็พิสูจน์แล้วจากการทำงานที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่วิธีรัฐประหารมีทางเดียวต้องไปก๊อก 2 คือนายกฯ คนนอกของรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียงสมาชิกสภา 2 ใน 3 ลงมติรับรอง แต่มีจุดอ่อนไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นต้องหาคนเป็นนายกฯ ขัดตาทัพชั่วคราว ช่วยกันหาทางออก แล้วแก้รัฐธรรมนูญเลือกตั้งใหม่ เพราะสถานการณ์จากนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ ดังนั้นควรทำอย่างใดอย่างหนึ่ง