“พุทธิพงษ์”หารือ“โอเปอร์เรเตอร์-เครือข่ายผู้ให้บริการมือถือทุกระบบ” สนับสนุนหน่วยงานราชการ-เอกชน-รัฐวิสาหกิจ”ทำงานที่บ้านผ่านแอพฯ พรุ่งนี้(16 มี.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)เปิดเผยถึงการใช้แอพพลิเคชั่น SydeKick สำหรับใช้ในการติดตามผู้ที่จำเป็นต้องกักกันตัวในบ้านว่า แอพพลิเคชั่นดังกล่าวทำมาแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้ระบบเอโอทีทั้งหมด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท.,สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกระทรวงคมนาคม ซึ่งกรณีของกลุ่มคนที่ใช้แอพพลิเคชั่นมี 2 กลุ่มคือ นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้มีการประสานให้โหลดแอพพลิเคชั่นและกรอกข้อมูล ซึ่งในแอพพลิเคชั่นจะมีการถ่ายรูปพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาส โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ที่กรมควบคุมโรคในช่วงที่จำเป็น ส่วนอีกกลุ่ม เป็นกลุ่มอื่นๆที่เดินทางเข้ามา โดยเราได้ทยอยขอความร่วมมือไป ขณะนี้กำลังประสานกับกระทรวงคมนาคมในการขอความร่วมมือตั้งแต่ต้นทาง เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาประเทศอาจจะให้มีวิดีโอสั้นๆบนเครื่องบิน เพื่อขอความร่วมมือเมื่อลงจากเครื่องบินให้กรอกข้อมูล เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา ทั้งนี้กำลังประสานกับนักท่องเที่ยวที่อาจจะเริ่มมีปัญหาไม่ได้เตรียมโทรศัพท์มือถือหรือเบอร์ เราจะพยายามประสานสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อาจจะขอซิมการ์ดฟรี 14 วันให้คนกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้คนที่เข้าประเทศไทยสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา รวมถึงกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่เข้ามาแล้วจะถูกส่งตัวไปยังภูมิลำเนา หรือไปกักตัวที่บ้าน ซึ่งใช้แอพพลิเคชั่นเอโอทีเหมือนกัน แต่อาจจะมีรายละเอียดมากขึ้นในการติดตามตัว อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะทำงานประสานกันระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย มีเจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันตลอด แอพพลิเคชั่นดังกล่าวช่วยเจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ป่วยมากขึ้นให้เห็นเป็นเรียลไทม์ เมื่อถามถึงกรณีข่าวเฟคนิวส์ต่างๆในเรื่องโควิด-19 มีการดำเนินการจับกุมอย่างไรบ้าง นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมามีการส่งเจ้าหน้าที่ไป 15 ชุดในการจับกุมคนที่ปล่อยเฟคนิวส์ออกมา โดยจับกุมได้ 5 รายและรับตัวมาดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)แล้ว ซึ่งจะมีการดำเนินคดีทุกรายไม่มีเว้น และจะทำต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือว่าในสถานการณ์แบบนี้ไม่อยากให้คนที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วนจะด้วยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตามอยากให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนมีการแชร์ เพราะจะกระทบกับสังคมโดยรวม ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก "สิ่งที่ดีที่สุดในการหยุดเฟคนิวส์ คือเมื่อได้รับข่าวสารนั้นมาแล้ว ได้อ่านแล้ว แต่ไม่มั่นใจ ไม่ชัวร์ว่าข้อมูลนั้นมาจากไหนขอให้หยุดที่ตัวเอง ไม่ต้องแชร์ส่งต่อไป จะทำให้ข่าวเฟคนิวส์นี้หยุดได้ที่ตัวท่านเอง จึงอยากขอความร่วมมือคนไทยทุกคน สำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ทุกวัน เพราะไม่อยากให้สังคมถูกชี้นำด้วยข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์" เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้หน่วยงานราชการบางหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่บางคนทำงานที่บ้าน นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ในวันที่ 16 มี.ค.นี้จะมีการร่วมมือกันระหว่างระหว่างโอเปอร์เรเตอร์และผู้ให้บริการทุกเครือข่ายในประเทศ รวมไปถึงไมโครซอฟ บริษัทไลน์ และกูเกิล จะมีการแถลงข่าวร่วมกันในการที่จะสนับสนุนการทำงานที่บ้าน ซึ่งจะเป็นระบบที่ทุกคนสามารถใช้ได้โหลดฟรีและไม่ไปกระทบแพ็คเกจโทรศัพท์ปัจจุบันที่ใช้อยู่เพื่อประชุมสัมมนา ถือเป็นการสนับสนุนให้ภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจใช้ช่องทางดังกล่าวในการทำงานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทางและป้องกันกลุ่มเสี่ยง