“จุรินทร์”เผยเรียก ผู้ประกอบการคุย กันสินค้าขาดแคลน ลั่น ใครเกี่ยวข้องกักตุนหน้ากากอนามัย ไม่ไว้หน้า แจง หน้ากากอนามัยส่งออก แพทย์ไทยไม่ใช้ เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 15 มี.ค.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีความกังวลของประชาชนเริ่มตื่นตระหนกและกักตุนสินค้า ว่า กระทรวงได้เชิญผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคมาหารือ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเป็นอย่างไร และสั่งการปลัดกระทรวงพาณิชย์ประสานข้อมูลกับผู้ผลิต รวมถึงต้องประสานความร่วมมือทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยปัจจุบันยังไม่มีการจำกัดการซื้อสินค้าจำเป็นบางชนิด เช่น กระดาษทิชชู แต่ขอให้ภาคเอกชนรายงานข้อมูลให้ปลัดกระทรวงเพื่อประกอบการตัดสินใจพิจารณาในบางช่วงต่อไป เมื่อถามว่าขณะนี้ถึงเวลาที่ประชาชนต้องกักตุนสินค้าแล้วหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นสิ่งดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะจะทำให้สินค้าขาดตลาดในเวลาที่ไม่สมควร เราอยากเห็นการจับจ่ายใช้สอยในภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้อย่างเพียงพอ เมื่อถามถึงกระแสข่าว ที่ปรึกษาหญิงของรัฐมนตรีบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากาก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง การกระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย รัฐบาลมีความชัดเจนว่าใครกระทำผิดจะต้องดำเนินการ หากเรื่องไปถึงใคร พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ติดตามดำเนินการ โดยไม่เลือกหน้า สำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยในปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานผู้ผลิตทั้ง 11 โรงงาน ในการปรับเปลี่ยนการผลิตหน้ากากอนามัยมากขึ้น ตอนนี้ดำเนินการได้แล้วบางส่วน โดยเพิ่มจากผลิตวันละ 1.2 ล้านชิ้น เป็น 1.76 ล้านชิ้น ทำให้การกระจายหน้ากากอนามัยได้คล่องตัวขึ้น สามารถจัดให้กระทรวงสาธารณสุข นำไปกระจายบุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาลต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ได้เพิ่มขึ้นจากวันละ 7 แสนชิ้นเป็นวันละ 1 ล้านชิ้น ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ก็สามารถกระจายไปยังร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าปลีกต่างๆ ได้มากขึ้น จากวันละ 5 แสนชิ้นเป็น 7.6 แสนชิ้น หลังจากนี้จะมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น ร้านกาแฟอเมซอน ปั๊มน้ำมันบางจาก และกำลังประสานไปรษณีย์ไทยให้จัดจำหน่ายผ่านทางไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ในการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ แต่ขอเรียนว่าถึงอย่างไรก็ไม่พอถ้าประชาชนจะใช้พร้อมกันทั้งประเทศ แต่จะกระจายให้ดีที่สุดและส่งเสริมให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้า และเรากำลังเร่งประสานประเทศต่างๆ ในการนำเข้าวัสดุดิบ เพื่อไม่ให้มีปัญหาด้วย เมื่อถามว่าหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศยังไม่เพียงพอเหตุใด ยังมีการอนุญาตให้ส่งออก นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรามีคำสั่งห้ามอนุญาตส่งออก ซึ่งพูดกันชัดเจนแล้วในทางนโยบายว่า ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้ จะไม่อนุญาตให้ส่งออกโดยเด็ดขาด ถ้าประชาชนยังไม่มีใช้แล้วอนุญาตให้ส่งออกจะตอบคำถามประชาชนอย่างไร แต่มันมีข้อยกเว้นถ้าเป็นหน้ากากอนามัยที่ประเทศไทยไม่ใช้ เช่น หน้ากากอนามัยที่มีแผ่นหน้ากากใสป้องกันตาและสายคล้องหูแบบเชือกที่หมอไทยไม่ใช้ หน้ากากอนามัยที่ผลิตขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์ของต่างประเทศที่ไม่สามารถขายในประเทศไทยได้ และหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายใต้เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนที่มีเงื่อนไขผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น ก็ต้องอนุญาตให้ส่งออก