นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.63 จนถึงปัจจุบัน ห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย ภายใต้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ กกร.ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคือ หน้ากากอนามัยที่ประเทศไทยไม่ใช้ สินค้าที่มีลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ โรงงานที่ผลิตได้รับบีโอไอให้ผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น รวมถึงหน้ากากเฉพาะที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมถึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้ โดยในการพิจารณามีคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตส่งออกไปนอกราชอาณาจักรที่ กกร.แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้แทนองค์การเภสัชกรรม และผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผู้แทนจากกรมการค้าภายใน ร่วมกันพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ซึ่งในการพิจารณาอนุญาตส่งออกแต่ละครั้งผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)จะพิจารณาชนิด และคุณภาพของหน้ากากอนามัย หากปรากฏว่าเป็นสเป็คดังกล่าวข้างต้นจึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้ แต่หน้ากากอนามัยแบบที่ไทยต้องใช้ไม่มีการอนุญาตให้ส่งออก ทั้งนี้ตามที่มีการเผยแพร่ภาพใบอนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น เป็นไปตามเงื่อนไขการส่งออกที่กำหนด ซึ่งการที่จะระงับการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าว ไม่มีเหตุผลที่จะนำมาอ้างต่อผู้ขอส่งออก และอาจจะต้องรับผิดจากความเสียหายที่เกิดขึ้น การส่งออกตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ขอยืนยันว่าไม่อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศอย่างแน่นอน