ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (13 มี.ค.2563)โดยการซื้อขายตลอดทั้งวันผันผวนอย่างมาก ในช่วงเช้าเกิด Panic Sell จนต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์พักการซื้อขาย 30 นาทีเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากวานนี้ ก่อนที่รีบาวด์และแกว่งตัวผันผวนรุนแรง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบถ้วนหน้า มีตัวแปรเดียวกันคือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ช่วงบ่ายพลิกกลับมาปรับขึ้นมากกว่า 30 จุด หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเตรียมชงการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นเสนอนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ(ตลท.) ประกาศปรับเกณฑ์การขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งเตรียมพิจารณามาตรการอื่น ๆ ตามมา นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้เปิดมาพลิกเป็นบวกได้กว่า 20 จุด คาดว่าจะตอบรับเรื่องที่ตลท.ปรับปรุงเกณฑ์การขายชอร์ตเพื่อใช้เป็นการชั่วคราว จากเดิมที่กำหนดให้สมาชิกจะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เป็น จะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายเท่านั้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การซื้อขายในภาคบ่ายของวันนี้ (13 มี.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งตรงนี้มองว่าช่วงลดความผันผวนของตลาดฯได้ จากที่นักลงทุนจะทำขายชอร์ตได้ยากขึ้น รวมถึงธุรกรรมที่เชื่อมโยงก็ทำได้ยากขึ้น ซึ่งทำให้ตัวเร่งให้ตลาดฯ ปรับตัวลงผิดปกติหรือแรงเกินไปจะหายไป ส่งให้ตลาดฯปิดที่ระดับ 1,128.91 จุด ปิดบวก 14.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 119,659.78 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ BEM ปิดที่ 18.10 บาท ลดลง 2.20 บาท PTT ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท AOT ปิดที่ 56.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท CPALL ปิดที่ 61.57 บาท คงที่ GULF ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท