"หุ้นไทย"ดิ่งเหวติดลบกว่า 125.05 จุด ต่ำสุดในรอบ 7 ปี 8 เดือน นับจากจุดต่ำสุดที่ 1,099 จุด เมื่อเดือน มิ.ย.55 ด้าน"ตลาดหลักทรัพย์"ต้องงัดเซอร์กิตเบรกเกอร์ หยุดพักการซื้อขายชั่วคราว ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ.ต่ำสุดรอบ 21 ปี จากปัญหาโควิด-19-ภัยแล้ง-การเมือง เมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,140.05 จุด ลดลง 109.84 จุด (-8.79%) มูลค่าซื้อขายราว 53,839.26 ล้านบาท ซึ่งการซื้อขายหุ้น ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,187.39 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,131.70 จุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย ดัชนียังคงไหลลงไม่หยุด โดยเมื่อเวลา 14.42 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,124.84 จุด ติดลบ 125.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -10.00% มูลค่าการซื้อขาย 61,326.06 ล้านบาท โดยมีแรงขายหนักทั่วทั้งกระดาน จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้หยุดพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราวตามมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ หลังจากดัชนี SET ภาคบ่าย ยังดิ่งหนักถึง 10% โดย นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก มองว่าเป็นการ Panic จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลกอย่างเร่งตัวขึ้น จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ว่าไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้วิตกผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ยังรับผลกระทบจากราคาน้ำมันร่วงลง ทำให้วิตกความเสี่ยงจากหนี้เสียที่จะมีสูงขึ้นได้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตน้ำมันมีต้นทุนสูงกว่าซาอุดิอาระเบีย และส่วนใหญ่ก็จะมีการออกหุ้นกู้กันหากค้าขายไม่ดีก็วิตกจะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ ทำให้หนี้เสียมีโอกาสที่จะสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจด้วย "ตลาดบ้านเราร่วงแรงส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Block Trade ที่ถ่วงตลาด จากที่ถูกบังคับขาย และยิ่งขายก็ยิ่งทำให้ดัชนีปรับตัวลงไป จนดัชนีรูดลงมาแถว 1,146 จุด ต่ำสุดในรอบประมาณ 7 ปี 8 เดือน นับจากจุดต่ำสุดที่ 1,099 จุด เมื่อเดือน มิ.ย.2555" วันเดียวกัน ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ.63 อยู่ที่ 64.8 จากเดือน ม.ค.63 ที่อยู่ในระดับ 67.3 ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปี สาเหตุมาจากความกังวลการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และปัญหาภัยแล้ง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดือน ก.พ.63 อยู่ที่ 52.5 ลดลงจากเดือน ม.ค.63 ที่อยู่ในระดับ 54.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำเท่ากับ 61.4 จาก 63.8 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 80.4 จาก 83.0