“ตลท.”จ่อตั้งกองทุนพยุงหุ้น หลังดัชนีร่วงหนัก พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือ บจ.- บล.หวังลดภาระค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการดำเนินงาน เสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจมูลค่าร่วม 500 ล้านบาท นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตลท.อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการพิจารณาจัดตั้ง “กองทุนไทยสร้างโอกาส” ซึ่งเป็นมาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยนำมาเพื่อช่วยประคองภาวะตลาดหุ้นในอดีต หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาปรับลดลงกว่า 25% และล่าสุดปรับลดลงรุนแรงกว่า 117 จุด หรือลดลงกว่า 9% ในวันนี้ โดยหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยในส่วนของสภาะตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ที่ปรับลดลงรุนแรง เป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียอื่นๆ รวมถึงได้มีการมอร์นิเตอร์ธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าและพบว่าภาวะตลาดที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติไม่ได้เป็นผลจากการใช้บล็อกเทรด การขายชอร์ต หรือโปรแกรมซื้อขายอัติโนมัติ เนื่องจากสัดส่วนการซื้อขายดังกล่าวอยู้ในระดับปกติ ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงความเหมาะสมในการพิจารณาใช้มาตรการการหยุดการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (Circuit Breaker)นายภากรกล่าวว่า การหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราวเมื่อดัชนีปรับตัวลดลง 10% เป็นระดับที่มีความเหมาะสมกับการดูแลความเสี่ยงจากการปรับลดลงของดัชนีหุ้น อย่างไรก็ตามจะพิจาณาถึงความเหมาะสมในระดับการลดลงอื่นๆเช่น ที่ระดับการลดลง 7% อย่างเกณฑ์ของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นต้น ขณะเดียวกันได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในตลาดทุนตั้งแต่ปี 2562 และล่าสุดกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯได้ออกมาตรการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจประกอบด้วย 1.มาตรการช่วยเหลือบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ โดยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่มอบหมายให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ(TSD) เป็นนายทะเบียนได้แก่ บริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนรายปี 20% ในปี 2563 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของธุรกิจลดลง นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯจะลดค่าธรรมเนียมรายปีแก่บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมกิจกรรม Opportunity Day ในปี 2563-2564 ตามจำนวนครั้งที่เข้าร่วมเสนอข้อมูล และข้อกำหนดตามวิธีปฏิบัติในการจัดประชุม 2.มาตรการช่วยเหลือบริษัทสมาชิกแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ 2.1 มาตรการลดต้นทุนการทำธุรกรรมใน TFEX โดยลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมการใช้บริการระบบ streaming ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและการชำระราคาของ SET 50 Futures และ SET50 Options รวมทั้งยังมีมาตรการให้ส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับปี 2563 2.2 มาตรการสนับสนุนบริษัทผู้ออก DW โดยลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน DW ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 และจะพิจารณาเพิ่มมาตรการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียน DW ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้ความรู้ผู้ลงทุนตามเงื่อนไขที่ตลาดกำหนดเป็นการช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการ 2.3 มาตรการสนับสนุนสมาชิกในการให้บริการผู้ลงทุนบุคคล สนับสนุนให้สมาชิกใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาบริการซื้อขายแก่ผู้ลงทุนบุคคล โดยเพิ่มช่องทางการเชื่อมต่อกับระบบซื้อขายสำหรับผู้ลงทุนบุคคลของสมาชิกแต่ละรายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ 3.มาตรการช่วยเหลือสมาชิกผู้ฝากหลักทรัพย์ของ TSD ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารผู้เก็บรักษาหลักทรัพย์ โดยลดค่าธรรมเนียมรักษาหลักทรัพย์ 20% ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ธ.ค.63 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิกผู้ฝากในช่วงภาวะเศษฐกิจชะลอตัว โดยมาตรการครั้งนี้ครอบคลุมบริษัทกว่า 800 บริษัท ทั้ง บจ.,บล.,บลจ.ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯยังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และพร้อมสนับสนุนการทำงานของภาคตลาดทุนในทุกมิติ รวมทั้งร่วมมือกับภาครัฐในการดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน