แอบจุดไฟลามทุ่งไม่พบแม้เงาคนจุด ไฟลามไปทั่วกลุ่มควันลอยสร้างมลพิษทางอากาศ

วันที่ 12 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น.บริเวณหลังสถานีพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุทัยธานี บ้านหนองแก ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี หลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนสายอุทัยธานี-อำเภอทัพทัน ผู้สื่อข่าวพบกลุ่มควันไฟลอยเหนืออากาศและกลิ่นของไฟไหม้หญ้า จึงได้ตามไปบริเวณดังกล่าว พบไฟนั้นกำลังลุกลามหญ้าแห้งและวัชพืชที่แห้งแล้งในนาข้าวประมาณ 50 ไร่ โดยไฟนั้นลุกลามมายังบริเวณข้างถนนตรงข้ามกับสถานีพัฒนาที่ดิน และในทุ่งนานั้นไฟกำลังลุกโชนลามหญ้าที่แห้งอยู่ในนาอย่างรวดเร็วเพราะมีลมพัดมาอย่างต่อเนื่องในทุ่งนาส่งผลให้ไฟนั้นลุกลามไปทั่วอีกทั้งยังพบร่องรอยหญ้าในนาและข้างทางนั้นจนดำและเป็นเถ้าถ่านอยู่ในนาและปลิวเพราะแรงลมไปทั่วบริเวณเป็นวงกว้าง โดยในที่ไฟไหม้ในนาข้าวที่แล้งและแห้งนั้นไม่พบร่องรอยคนจุดหรือเครื่องมือในการลามทุ่งนาไว้แต่อย่างไร แต่พบไฟลุกลามเป็นบริเวณกว้างรวมถึงกลุ่มควันไฟนั้นลอยอยู่ในอากาศสร้างมลพิษ โดยในฤดูร้อนของทุกปีบริเวณดังกล่าวยังพบว่ามีหน่วยงานและชาวบ้านที่เดือดร้อนนั้นแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจขอให้รถน้ำขององค์การบริหารส่วนตำบลและของเทศบาลต่างๆมาช่วยดับไฟในทุ่งนาอยู่เสมอและเชื่อมาเป็นฝีมือคนจุดอย่างแน่นอน เพราะมีร่องรอยของการจุดเพื่อลามทุ่งอยู่เป็นระยะตามทุ่งนา เพราะการจุดไฟเพื่อลามทุ่งในหน้าร้อนนั้นไม่ต้องลงทุนในการขุดหญ้าหรือวัชพืชที่แห้งออกจึงใช้วิธีใช้ไฟจุดทำให้นาข้าวที่แห้งและแล้งแทน ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องนั้นได้ประกาศแจ้งเตือนขออย่าจุดไฟเพื่อลามทุ่งหรือจุดป่าในฤดูร้อนเพราะจะทำให้ไฟนั้นลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชนและยังส่งผลก่อเกิดมลพิษทางอากาศแต่ก็ยังมีชาวบ้านนั้นแอบจุดกันอย่างเสมอ